xs
xsm
sm
md
lg

เลขาธิการศูนย์จีน-อาเซียนนำคณะเยือนไทย พบปะรองปลัด กต. และผู้ช่วย รมต.พาณิชย์ไทย หารือยกระดับความร่วมมือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เลขาธิการศูนย์จีน-อาเซียน นายสื่อ จงจวิ้น พบปะกับนางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 4 มี.ค.2567
ในวาระที่คณะเจ้าหน้าที่แห่งศูนย์จีน-อาเซียน (ACC) นำโดยเลขาธิการศูนย์ นายสื่อ จงจวิ้น มาเยือนประเทศไทย นายสื่อ จงจวิ้น และคณะได้พบปะกับนางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายภัณฑิล จงจิตรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ไทยที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 4 มี.ค.

ระหว่างพบปะกับนางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายสื่อ จงจวิ้น กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยสำหรับการสนับสนุน ACC เสมอมา และย้ำถึงภูมิทัศน์ระหว่างประเทศที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและท้าทายมากขึ้น ขณะที่กลุ่มประเทศอาเซียนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีและมีบทบาทสำคัญในธรรมาภิบาลโลก ความสัมพันธ์จีนและอาเซียนยิ่งทวีความสำคัญในด้านธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญก้าวหน้าของภูมิภาครวมทั้งเขตอื่นๆ

ด้วยปีนี้เป็นปีแห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนของอาเซียน-จีน ACC ได้เพิ่มความพยายามเป็น 2 เท่าตัวในการส่งเสริมบทบาทเป็นสะพานเชื่อมโยงและผลักดันความร่วมมือที่ทรงคุณภาพและหลากหลายแง่มุมระหว่างจีนและอาเซียน ทั้งด้านการแลกเปลี่ยนเยาวชน วัฒนธรรม การศึกษา ท่องเที่ยว และสื่อ อีกทั้งกระตุ้นความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งอาเซียนและจีนได้ดีขึ้น และจะสร้างคุณูปการแก่การเติบโตของคู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่รอบด้านระหว่างอาเซียน-จีน

ด้านรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทย นางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต กล่าวชื่นชมการทุ่มเทของ ACC ที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน และอาเซียน-จีน ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างและสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้นระหว่างประชาชนสองฝ่าย ในด้านของไทยได้เพียรพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์อาเซียน-จีนในหลายปีที่ผ่านมาผ่านคู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่มุ่งเสริมสร้างสันติภาพ ความรุ่งเรือง ความมั่นคง สมานฉันท์ และการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เพื่อสร้าง “บ้าน 5 หลัง” สำหรับทั้งจีนและอาเซียน

ฝ่ายไทยยังรักษาบทบาทที่สร้างสรรค์ในการสนับสนุนภารกิจในอนาคตของ ACC และทำงานร่วมกับ ACC ค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ทั้งสองฝ่าย ผลักดันโครงการแลกเปลี่ยนให้มีมากขึ้นในภาคต่างๆ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และเยาวชน เป็นต้น

เลขาธิการศูนย์จีน-อาเซียน นายสื่อ จงจวิ้น พบปะกับนายภัณฑิล จงจิตรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ไทย ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 4 มี.ค.2567
ในวันเดียวกัน นายสื่อ จงจวิ้น และคณะ ได้พบปะกับนายภัณฑิล จงจิตรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ไทย

นายสื่อ จงจวิ้น กล่าวว่า ไทยและจีนได้เข้าสู่ยุค “ฟรีวีซ่า” กันแล้ว และกำลังสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ๆ ในด้านความร่วมมือกัน โดยในปัจจุบันความร่วมมือเศรษฐกิจ การค้าระหว่างสองประเทศได้สร้างผลประโยชน์ร่วมและแนวโน้มที่สดใสเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว

ปีหน้าเป็นวาระครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีน ACC พร้อมที่จะขยายความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ไทย โดยเฉพาะความร่วมมือภาคอุตสาหกรรมเกิดใหม่ อย่างเช่น เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาคาร์บอนต่ำ และยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (NEVs)

การส่งเสริมความร่วมมือที่ดีขึ้นผ่านแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเปิดโอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้น ส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น

คณะเจ้าหน้าที่ศูนย์จีน-อาเซียนพบปะกับคณะทำงานของนายภัณฑิล จงจิตรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ไทย ที่กรุงเทพฯในวันที่ 4 มี.ค. 2567
ด้านผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ไทย นายภัณฑิล ได้กล่าวขอบคุณ ACC ที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนา ASEAN Economic Community (AEC) และชื่นชม ACC สำหรับบทบาทช่วยส่งเสริมความร่วมมือภาคการค้าและการลงทุนรหะว่างจีนและอาเซียน

จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทย 12 ปีติดต่อกัน และเป็นแหล่งการลงทุนแห่งหลัก ขณะที่การผลักดันความร่วมมือในกรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) บรรลุเป้าหมายสมบูรณ์แล้ว ไทยยังหวังขยายขอบเขตความร่วมมือไปสู่ภาคอุตสาหกรรมเกิดใหม่ร่วมกับจีนและประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ

นอกจากนี้ ฝ่ายไทยกำลังศึกษาค้นหาช่องทางใหม่ๆ สำหรับความร่วมมือกับ ACC โดยมีแผนการจัดทริปเชิญกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ในภาคธุรกิจจีนมายังประเทศไทย ส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจในไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของ ACC ตลอดจนจัดงานแสดงสินค้าเฉพาะทางให้ทั้งคู่หุ้นส่วนธุรกิจจากไทยและจีน และคู่หุ้นส่วนกลุ่มประเทศอาเซียนและจีน


กำลังโหลดความคิดเห็น