รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งจีนวางแผนผลิตในเม็กซิโกส่งขายตลาดสหรัฐอเมริกากำลังเจอกับการตั้งด่านสกัด
กลุ่มพันธมิตรเพื่อการผลิตแห่งอเมริกา (เอเอเอ็ม) ออกรายงานชื่อว่า "บนเส้นทางความขัดแย้ง : ภัยคุกคามที่มีอยู่ของจีนต่ออุตสาหกรรมยานยนต์อเมริกาและเส้นทางผ่านเม็กซิโก" (On a Collision Course: China’s Existential Threat to America’s Auto Industry and its Route Through Mexico) เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ปิดกั้นการนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนของจีนที่ผลิตในเม็กซิโก โดยระบุว่าบีวายดีกำลังสร้างโรงงานในประเทศไทย และฮังการีเพื่อเป็นศูนย์กลางการส่งออกระดับภูมิภาค แต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือบริษัทของจีนกำลังทุ่มเงินในการก่อสร้างโรงงานผลิตรถอีวีหลายแห่งในเม็กซิโกเพื่อส่งรถเข้ามาขายในสหรัฐฯ โดยหวังอาศัยข้อตกลงสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (ยูเอสเอ็มซีเอ) เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีและสามารถหลบเลี่ยงนโยบายกีดกันที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังใช้กับจีนขณะนี้
รายงานของเอเอเอ็มยังระบุว่า บริษัทจีนสามารถผลิตรถขายในราคาถูกกว่าชาติอื่นอย่างมาก เพราะได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล การเข้ามาในตลาดสหรัฐฯ อาจเป็นเหตุการณ์ในระดับการสูญพันธุ์สําหรับภาคยานยนต์อเมริกันเลยทีเดียว
ทั้งนี้ ในปัจจุบันสหรัฐฯ จัดเก็บภาษีนำเข้ารถอีวีที่ผลิตในจีนในอัตราร้อยละ 25 ซึ่งสูงกว่าอัตราการจัดเก็บสำหรับรถนำเข้าทั่วไปที่ร้อยละ 2.5 อย่างไรก็ตาม การตั้งโรงงานผลิตในเม็กซิโกอาจเปลี่ยนสมการนี้
บริษัทเอ็มจี บีวายดี และเชอรี่ของจีนกำลังหาทำเลก่อสร้างโรงงานในเม็กซิโกเป็นกระแสข่าวที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวต่อต้านในสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง สมาชิกสภาคองเกรสหลายคนเคยออกมาเตือนก่อนหน้า
ปัจจุบัน จีนกลายเป็นมหาอำนาจด้านรถยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทบีวายดีครองยอดขายรถอีวีอันดับหนึ่งในโลกแซงหน้าบริษัทเทสลาของสหรัฐฯ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งเทสลาถึงกับระบุว่า รถอีวีของจีนนั้นดีจริงๆ ถ้าไม่มีการตั้งอุปสรรคทางการค้าแล้ว มีหวังค่ายรถอื่นๆ ส่วนใหญ่ในโลกถูกรถของจีนโค่นเกือบหมดแน่
รถค่ายบีวายดีราคาถูก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีห่วงโซ่อุปทานแบตเตอรี่เองทั้งหมด โดยแบตเตอรี่คิดเป็นร้อยละ 40 ของราคารถอีวี
นายไมเคิล ดันน์ ซีอีโอของ “ดันน์ อินไซตส์” (Dunne Insights) บริษัทที่ปรึกษาด้านรถยนต์ระบุว่า ไม่มีใครสู้กับบีวายดีด้านราคาได้ ห้องประชุมคณะกรรมการในอเมริกา ยุโรป เกาหลี และญี่ปุ่นอยู่ในภาวะช็อกกันเป็นแถว
ขณะที่นายจิม ฟาร์ลีย์ ซีอีโอของฟอร์ด เตรียมร่วมมือด้านแบตเตอรี่กับบริษัทคู่แข่งเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากจีน
แต่นักสังเกตการณ์ของจีนเตือนว่า การปิดกั้นการนำเข้ารถอีวีจีนเท่ากับเป็นการปิดกั้นโอกาสที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันจะได้ซื้อรถคุณภาพดีในราคาที่สามารถหาซื้อได้ มาตรการกีดกันการค้าดังกล่าวจะไม่มีทางแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐฯ แข่งสู้จีนไม่ได้ ซึ่งได้แก่ปัญหาด้านนวัตกรรม ตลาด และการขาดแคลนผู้มีความสามารถ
ที่มา : ฟอร์จูน/โกลบอลไทมส์/รอยเตอร์
