ทุกวันนี้ นายเปา ฝาน มหาเศรษฐีนักธุรกิจวัย 54 ปี ผู้ก่อตั้ง “ไชน่าเรเนสซองส์ โฮลดิงส์” (China Renaissance Holdings) วาณิชธนกิจรายใหญ่สุดแห่งหนึ่งบนแดนมังกร ยังคงควบคุมดูแลกิจการของสถาบันการเงินแห่งนี้ เพียงแต่ทำอยู่ห่างๆ
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2566 เกิดข่าวลือใหญ่ว่านายเปา ถูกทางการจีน “อุ้มหาย” ต่อมาไม่นานจากการเปิดเผยของบรรดาแหล่งข่าวเป็นที่ชัดเจนในระดับหนึ่ง ว่า เขากำลังอยู่ในกระบวนการสอบสวนของทางการจีน บ้างก็ว่าเขาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์นำตัวไปเพื่อช่วยในการสอบสวนอดีตเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง โดยเพื่อนร่วมงานตลอดจนผู้คนในสังคมไม่มีใครเห็นเขานับตั้งแต่นั้น
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ปีนี้ สื่อต่างประเทศรายงานว่า ไชน่าเรเนสซองส์ออกแถลงการณ์เรื่องนายเปา ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหาร ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ และต้องการใช้เวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น
การลาออกจากทุกตำแหน่งแสดงว่าไชน่าเรเนสซองส์กำลังดำเนินการแยกตัวออกมาจากนายเปา เพื่อพยายามบรรเทาผลกระทบจากการสอบสวน แต่ถึงกระนั้นนายเปายังคงกุมบังเหียนแน่น เห็นได้จากสัดส่วนการถือหุ้นและการสนับสนุนของผู้ร่วมงานใกล้ชิดในระดับผู้บริหาร โดยแหล่งข่าววงในเรื่องนี้ 3 คนระบุว่า นายเปา ยังคงถือหุ้นอยู่ราวร้อยละ 49 อีกทั้งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านเขายังมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ของบริษัทอยู่มาก แม้ว่าจะเป็นการสื่อสารสั่งการจากระยะไกลก็ตาม
ภายใต้นโยบายกวาดล้างการทุจริตในภาครัฐและเอกชนอย่างเด็ดขาดของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มีผู้บริหารระดับสูงบริษัทเอกชนหลายคน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคการเงินได้หายหน้าหายตาไปช่วงเวลาหนึ่ง หลังจากตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริต การหนีภาษี หรือการประพฤติมิชอบอื่นๆ โดยแทบปราศจากคำชี้แจงของทางการจีน กรณีของนายเปาก็เชื่อกันว่าเขายังคงถูกควบคุมตัวอยู่
ไชน่าเรเนสซองส์ก่อตั้งเมื่อปี 2548 นายเปาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นนายธนาคารที่มีคอนเนกชันดีที่สุดคนหนึ่งของจีน เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและการระดมทุนระดับกูรู โดยไชน่าเรเนสซองส์เป็นที่ปรึกษาการทำไอพีโอให้เจดีดอตคอม (JD.com) และไคว่โส่ว (Kuaishou) รวมถึง สร้างผลงานในการควบรวมกิจการทำให้เกิดบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน เช่น ตีตี (Didi) ชูสิง (Chuxing) เหม่ยถวน (Meituan) และทริปดอตคอม (Trip.com)
จากการเปิดเผยของแหล่งข่าว ไชน่าเรเนสซองส์เคยมีพนักงานในแผนกหลักทรัพย์และการให้คำปรึกษากว่า 700 คนบนแผ่นดินใหญ่ และที่ฮ่องกง แต่การหายหน้าของนายเปา ทำให้พนักงานลดจำนวนลง 1 ใน 3 จากการลาออกโดยสมัครใจ การเลิกจ้าง และไม่ได้รับการต่อสัญญา โดยมีบริษัทอย่างน้อยหนึ่งแห่งแสดงความสนใจเข้าซื้อแผนกหลักทรัพย์ แต่นายเปา ยังไม่พูดว่ากระไร นอกจากนั้น ฝ่ายบริหารของบริษัทเคยคาดหวังว่า นายเปา จะถูกปล่อยตัวในราวเดือน ก.ค.-ก.ย.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ หุ้นของไชน่าเรเนซองส์ ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงถูกระงับการซื้อขายตั้งแต่เดือน เม.ย.ปีที่แล้ว โดยราคาหุ้นร่วงร้อยละ 27 ระหว่างการหายตัวไปของนายเปา และการระงับซื้อขาย ทำให้มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 4,100 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (525 ล้านดอลลาร์)
ที่มา : รอยเตอร์