ไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ เป็นอีกสายการบินหนึ่งที่ขอระงับการส่งมอบเครื่องบินโดยสารรุ่น 737 แม็กซ์ (737 Max) จากบริษัทโบอิ้ง หลังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันแผ่นประตูปิดช่องทางออกฉุกเฉิน (door plug) หลุดร่วงจากตัวเครื่องบินรุ่นดังกล่าวของสายการบินอะแลสก้า ขณะบินกลางอากาศในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา
จากรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล ซึ่งอ้างแหล่งข่าวระบุว่า ไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ สายการบินใหญ่ที่สุดของจีนและเป็นรัฐวิสาหกิจ เตรียมพร้อมรับมอบ 737 แม็กซ์จำนวนหลายลำอย่างเร็วสุดในเดือนมกราคม แต่มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเสียก่อน การเลื่อนการรับมอบออกไปอาจทำให้จีนกับบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติอเมริการายนี้เกิดปัญหาระหว่างกันขึ้นมาอีกก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ทางสายการบินอ้างเหตุผลในการเลื่อนการส่งมอบว่า เพื่อให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องบินรุ่นนี้เพิ่มเติม ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลการบินของรัฐบาลจีนยังได้เรียกร้องให้สายการบินของจีนทั้งหมดตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องบิน 737 แม็กซ์ที่มีอยู่เพื่อเป็นการป้องกัน
ฝ่ายบริษัทโบอิ้งได้ดำเนินการตรวจสอบจุดบกพร่องของเครื่องบินโดยสารรุ่นนี้อีกครั้ง ส่งผลให้ 737 แม็กซ์ทุกลำในสหรัฐฯ พักการบิน โดยเครื่องบินของสายการบินอะแลสก้าลำดังกล่าวเป็น 737 แม็กซ์ 9 (737 Max 9) ซึ่งไม่อยู่ในหมู่เครื่องบินที่จะส่งมอบให้ไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์และในปัจจุบันไม่มีสายการบินใดของจีนใช้เครื่องบินรุ่นนี้
บริษัทโบอิ้งแทบไม่ได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากจีนมาตั้งแต่ปี 2560 ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โดยในปี 2562 จีนเคยสั่งระงับการส่งมอบเครื่องบินของบริษัทโบอิ้งทั้งหมด และสั่งพักการบินของเครื่องบินโบอิ้งทุกแบบที่มีอยู่ หลังจาก 737 แม็กซ์ประสบอุบัติเหตุตกถึง 2 ครั้งที่อินโดนีเซียและเอธิโอเปียในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งทำให้ 737 แม็กซ์ในทั่วโลกต้องลงจอดทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม บริษัทโบอิ้งเริ่มส่งมอบเครื่องบินให้จีนได้อีกครั้งเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เป็นเครื่องบิน 787 ดรีมไลเนอร์ จนกระทั่งจีนสั่งระงับล่าสุดดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทโบอิ้ง ที่เคยกล่าวว่า จีนจะครองสัดส่วนร้อยละ 20 ของความต้องการเครื่องบินในทั่วโลกจนถึงปี 2585 ดังนั้น การกลับมาขาย 737 แม็กซ์ให้จีนได้อีกครั้งจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญของแผนธุรกิจในจีนของโบอิ้ง
ที่มา : THEWEEK / รอยเตอร์