หน่วยงานทุกระดับของรัฐบาลจีนไล่มาตั้งแต่กระทรวง ทบวง กรม ประกาศภารกิจสำคัญที่ต้องทำในปี 2567 ไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือการมุ่งสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการกระตุ้นความต้องการใช้จ่ายในประเทศ เพื่อเป้าหมายการเติบโตที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจแดนมังกร
ก่อนสิ้นปีประมาณ 10 วัน ได้มีการประชุมวางแผนการทำงานของแต่ละหน่วยงาน เช่น คณะกรรมการกำกับและบริหารสินทรัพย์ที่รัฐเป็นเจ้าของ (State-owned Assets Supervision and Administration Commission of the State Council) ซึ่งประกาศว่าจะส่งเสริมการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาให้เข้มข้นขึ้น รวมถึงผลผลิตด้านเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) จะส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเกิดใหม่ ส่งเสริมการขายรถยนต์พลังงานสะอาดและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงพาณิชย์ให้คำมั่นส่งเสริมสินค้ารับแลกเปลี่ยน (trade-ins) และการสร้างสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจในระดับชั้นนำของโลก
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอภารกิจหลัก 5 ข้อ โดยเน้นความก้าวหน้าและผลสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาและความมั่นคงของชาติ ตลอดจนสนับสนุนการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี ขณะที่สำนักงานบริหารการกำกับดูแลทางการเงินแห่งชาติ (National Financial Regulatory Administration) ย้ำว่าจะขยายการให้บริการด้านการเงินเพื่อกระตุ้นการพัฒนากำลังการผลิตรูปแบบใหม่ๆ
ด้านคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้กำหนดนโยบายสูงสุดด้านเศรษฐกิจ ประกาศภารกิจสำคัญในปีหน้าคือ การดูแลให้มีการนำเงินจำนวน 1 ล้านล้านหยวนจากการออกพันธบัตรใหม่ของรัฐบาลในปี 2566 มาใช้กระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน และโครงการระดับชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
การประกาศแผนงานอย่างชัดเจนเหล่านี้เท่ากับเป็นการสนองนโยบายและขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม หลังจากมีการประชุมการทำงานด้านเศรษฐกิจส่วนกลาง (Central Economic Work Conference) ของคณะผู้นำจีนเมื่อกลางเดือน ธ.ค. โดยที่ประชุมระบุว่า ภารกิจด้านเศรษฐกิจสำคัญอันดับแรกสุดสำหรับปีหน้าคือการใช้นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นผู้นำในการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมสมัยใหม่ นอกจากนั้น ต้องกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ โดยส่งเสริมการใช้จ่ายดิจิทัล การใช้จ่ายด้านพลังงานสะอาด ด้านสุขภาพ และในภาคใหม่ๆ เช่น อุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับบ้านอัจฉริยะ ความบันเทิง การท่องเที่ยวและกีฬา
ด้านนักวิเคราะห์ของจีนมองว่า การขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมนี้แสดงให้เห็นถึงการตระหนักว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อาศัยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจจีน
ที่มา : โกลบอลไทมส์