สมาคมผู้ประกอบการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไอเอทีเอ) คาดการณ์ว่า ความต้องการเดินทางไปจีนแผ่นดินใหญ่ของนักเดินทางต่างชาติ และความต้องการของคนจีนในการเดินทางไปต่างประเทศจะฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2567 อันเป็นผลมาจากการฟื้นตัว ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในอัตราที่แข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่จีนเปิดประเทศเมื่อเดือน ม.ค.2566 จากการเปิดเผยของนายวิลลี วอลช์ (Willie Walsh) ผู้อำนวยการใหญ่ของสมาคมระหว่างการแถลงข่าวของไอเอทีเอที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อสัปดาห์ก่อน
การฟื้นตัวของจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินเข้าออกจีนแผ่นดินใหญ่ย่อมมีส่วนต่อการฟื้นตัวของสายการบินต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์อีกหลายคนเตือนว่า เศรษฐกิจแดนมังกรที่ชะลอตัว ประกอบกับความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และปัญหาปลีกย่อยอื่นๆ เช่น ขั้นตอนการขอวีซ่า อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการฟื้นตัวสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
จากข้อมูลของไอเอทีเอ ความต้องการเดินทางเข้าออกจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาดอยู่ร้อยละ 40
ด้านซีเรียม (Cirium) บริษัทวิเคราะห์ด้านการบินตั้งข้อสังเกตว่า ความจุที่นั่งของเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เข้าออกจีนเมื่อเดือน พ.ย.2566 ต่ำกว่าระดับที่บันทึกไว้เมื่อเดือน ธ.ค.2562 ร้อยละ 38
อย่างไรก็ตาม มารี โอเวนส์ ทอมเซน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอทีเอระบุว่า การเพิ่มเที่ยวบินโดยตรงระหว่างสหรัฐฯกับจีนตามข้อตกลงของผู้นำชาติทั้งสองเมื่อเดือนที่แล้วเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สมาคมมองแนวโน้มปีหน้าในทิศทางบวก
ขณะที่ ดร.เซี่ย ซิงฉวน รองประธานไอเอทีเอประจำภูมิภาคเอเชียเหนือชี้ว่า การรับรู้ของนักเดินทางเกี่ยวกับความปลอดภัยของประเทศจุดหมายปลายทางก็มีผลต่อจำนวนเที่ยวบินจากจีนเช่นกัน และเขาหวังว่า รัฐบาลจีนจะขยายการยกเว้นวีซ่าการเดินทางให้ชาติอื่นๆ นอกเหนือจาก 6 ชาติที่ประกาศไปแล้ว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าจีน
ส่วนนายเดวิด อี้ว์ ประธานบริษัท เอเชีย เอวิเอชัน แวลูเอชัน แอดไวเซอส์ (Asia Aviation Valuation Advisors) มองว่า ความต้องการเดินทางระหว่างประเทศของจีนแผ่นดินใหญ่มีแนวโน้มฟื้นตัวในปี 2568 ไม่ใช่ปี 2567
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์