นาง จีนา ไรมอนโด รมว. กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาแจ้งบริษัทผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เช่น เอ็นวิเดีย ( Nvidia ) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ ให้ทราบล่วงหน้าว่า กระทรวงจะเข้ากวาดล้างชิปเอไอในทันที หากรู้ว่า เป็นชิปที่ออกแบบใหม่เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการควบคุมการส่งออก ซึ่งสหรัฐฯบังคับใช้กับประเทศฝ่ายตรงข้าม เช่น จีน
“เราไม่อาจปล่อยให้จีนได้ชิปเหล่านี้ไป จบนะ เราจะไม่ยอมให้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดของเรากับพวกเขา” ไรมอนโดประกาศบนเวทีการประชุมฟอรั่มเรแกนว่าด้วยการป้องกันประเทศ ( Reagan National Defense Forum ) ซึ่งจัดขึ้นที่รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันเสาร์ ( 2 ธ.ค.)
“ ฉันทราบว่ามีซีอีโอของบริษัทชิปนั่งฟังอยู่ในที่นี่ และไม่ค่อยชอบใจที่ฉันพูดเช่นนี้ เพราะคุณกำลังสูญเสียรายได้” ไรมอนโดอธิบาย
“ ชีวิตก็เป็นแบบนี่แหละ การปกป้องเรื่องความมั่นคงของชาติย่อมสำคัญกว่ารายได้ในระยะสั้น”
“ ถ้าคุณออกแบบชิปใหม่หลบเลี่ยงเส้นที่ขีดคั่นไว้เพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างเอไอได้ ฉันจะยับยั้งในวันรุ่งขึ้นทันที” เธอย้ำ
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ มีอำนาจสั่งยับยั้งการส่งออกของบริษัทผู้ผลิตชิป ภายใต้มาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศเมื่อเดือนต.ค. 2565 เพื่อไม่ให้จีนเข้าถึงชิปเอไอขั้นสูง ซึ่งจีนอาจนำไปเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ ต่อมาเมื่อกลางเดือนต.ค. 2566 รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เพิ่มชิป A800และH800 รวมทั้ง L40S ของเอ็นวิเดียในรายการสินค้าควบคุมการส่งออก โดยชิป A800และ H800 ยังขายในตลาดจีน โดยดัดแปลงจากชิปเวอร์ชันทรงพลังกว่า เช่น A100 และ H100 ซึ่งถูกห้ามขายไปแล้ว
มาตรการควบคุมการส่งออกชิปเอไอของสหรัฐฯ ยังครอบคลุมถึงเวียดนาม และอีกหลายชาติในภูมิภาคตะวันออกกลาง ยกเว้นซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิสราเอล
โคเล็ตต์ เครส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเอ็นวิเดียคาดว่า ยอดขายของบริษัทจะลดลงในไตรมาส 4 ของปี 2567 จากมาตรการดังกล่าว เนื่องจากชาติที่อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมเหล่านั้นเป็นลูกค้ารายใหญ่ ขณะที่โฆษกของเอ็นวิเดียยืนยันว่า บริษัทได้เข้าร่วมและปฏิบัติตามแนวทางของรัฐบาล
ด้านบทบรรณาธิการของโกลบอลไทมส์สื่อของทางการจีนระบุว่า สิ่งที่ไรมอนโดพูดบนเวทีฟอรั่มดังกล่าวขัดแย้งกับที่เธอเคยพูดก่อนหน้าว่า สหรัฐฯตั้งใจที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน เพราะสหรัฐฯ เชื่อว่าจะไม่กระทบกับผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติ แต่บนเวทีฟอรั่มเธอกลับหยิบยกเรื่องความมั่นคงแห่งชาติขึ้นมาพูดตลอดเวลา และเรียกจีนว่า เป็นภัยคุกคามใหญ่สุดเท่าที่สหรัฐฯ เคยมีมา ทั้งยังย้ำอีกว่า “จีนไม่ใช่เพื่อนของเรา” นี่เป็นสิ่งชี้ชัดถึงลักษณะนิสัยการตีสองหน้า ซึ่งฝั่งรากลึกในนโยบายของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีนในปัจจุบัน
จาก “ Commerce secretary to crack down on Nvidia AI chips redesigned to get around trade curbs” ในฟ็อกซ์บิสซิเนส
“By seeking more funding, Raimondo exposes US' deep-rooted dilemma: Global Times editorial” ในโกลบอลไทมส์