กระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ของจีนเสนอร่างมาตรการลงโทษแก๊งหลอกลวงต้มตุ๋นเงินชาวบ้านทางโทรศัพท์มือถือ และช่องทางการสื่อสารโทรคมนาคมอื่นๆ โดยกระทรวงได้เริ่มขั้นตอนการขอความคิดเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับมาตรการลงโทษนี้แล้ว
ร่างมาตรการลงโทษประกอบด้วย 19 มาตรา ครอบคลุม 6 ประเด็น เช่น หลักระเบียบวินัยและมาตรการทางวินัย นอกจากนั้น ยังระบุพฤติกรรมที่เข้าข่ายถูกลงโทษภายใต้มาตรการนี้ เช่น การช่วยเหลือให้มีการการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม การปลอมแปลงบัตรเครดิต และการล้วงข้อมูลส่วนตัวของพลเมือง หรือผู้มีส่วนร่วมในการซื้อ ขาย เช่า ให้ยืมซิมการ์ดอย่างผิดกฎหมาย รวมถึง IoTการ์ด บัญชีธนาคาร บัญชีอินเทอร์เน็ต กระเป๋าเงินหยวนดิจิทัล โดยบทลงโทษขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการละเมิด เช่น อาจสั่งระงับบัญชีธนาคาร และระงับการให้บริการติดต่อสื่อสาร เช่น ซิมการ์ดและหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP addresses)
จีนมีการตรากฎหมายปราบปรามการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมเมื่อปี 2565 ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ความเคลื่อนไหวเชิงรุกของกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ครั้งนี้มีขึ้นหนึ่งวัน หลังจากเพิ่งประกาศตั้งเงินรางวัล 1 แสน-5 แสนหยวน (ราว 494,000-2,470,000 บาท) สำหรับผู้แจ้งเบาะแสเพื่อนำไปสู่การจับกุมหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 คนทางภาคเหนือของพม่าเมื่อวันอาทิตย์ (12 พ.ย.) โดยมิจฉาชีพเหล่านี้มีแหล่งซ่องสุมอยู่ในภูมิภาคโกก้าง มุ่งเป้าหมายเหยื่อคนจีน และต้องสงสัยก่อคดีฆาตกรรม ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยวอีกด้วย
ในปี 2566 กระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์เพิ่มความเข้มข้นกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่งผลให้ตั้งแต่เดือน ส.ค.เป็นต้นมา คดีลดลงร้อยละ 24 และจำนวนการสูญเสียทรัพย์สินของประชาชนลดลงร้อยละ 20.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน
ที่มา : โกลบอลไทมส์