ในวันอังคาร (24 ต.ค.) จีนประกาศปลดผู้นำใหญ่ในคณะรัฐบาล คือ พล.อ.หลี่ซังฝู ถูกปลดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและมนตรีแห่งรัฐ และอีกคนคือ นายฉิน กัง ถูกปลดออกจากตำแหน่งมนตรีแห่งรัฐ
สำหรับฉิน กัง เพิ่งถูกปลดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนั้นมีการวิเคราะห์ว่าการที่ฉินกังยังไม่ถูกปลดจากตำแหน่งมุขมนตรีแห่งรัฐที่เขานั่งควบอยู่ด้วยนั้นเพราะเป็นที่ปรึกษาคนสนิทที่สี จิ้นผิงไว้วางใจ จึงยังรักษาเก้าอี้ในคณะรัฐบาลไว้ให้
ในการประกาศปลดฉินกังจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้มีการแต่งตั้ง หวัง อี้ กลับมาเป็นดำรงตำแหน่งแทน
ขณะนี้สภามุขมนตรีของคณะรัฐบาลมังกร เหลือผู้นำ 3 คน ทั้งนี้ สภามุขมนตรีแห่งรัฐจีน (state councillor) ประกอบด้วยผู้นำ 5 คน มีบทบาทใหญ่รองจากนายกรัฐมนตรี และรองนายกฯ ผู้นำที่ได้ควบตำแหน่งมนตรีแห่งรัฐมักมาจากรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ สำหรับมนตรีแห่งรัฐที่เหลืออยู่ในตอนนี้ คือ หวังเสี่ยวหง รัฐมนตรีความมั่นคงสาธารณะ อู๋เจิ้งหลง เลขานุการคณะรัฐมนตรี และเซิ้นอี๋ฉิน
ดูเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของจีนที่การประกาศปลดผู้นำระดับท็อปจะไม่มีการอธิบายเหตุผลใด ทว่า ก็เข้าอีหรอบสำนวนไทย “ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิด”
ก่อนที่ฉินถูกปลด เขาหายหน้าไปนานนับเดือนท่ามกลางข่าวลือหึ่งว่าเขามีสัมพันธ์ชู้สาวกับ “ฟู่ เสี่ยวเถียน” ผู้จัดรายการโทรทัศน์ วัย 40 ปี และยังมีลูกด้วยกัน ต่อมายังมีข่าวลืออีกว่า ลูกของฟู่กับนายฉินเกิดจาก “แม่อุ้มบุญ” โดยให้หญิงในสหรัฐอเมริกาคนหนึ่งตั้งครรภ์แทนเมื่อปีที่แล้ว (2022) ทั้งนี้ การอุ้มบุญหรือการตั้งครรภ์แทนเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศจีน
สำหรับ พล.อ.หลี่ซังฝูนั้น ได้หายหน้าไปจากสาธารณะเกือบ 2 เดือนนับจากปลายเดือน ส.ค. และมีข่าวลือว่าหลี่ซังฝูมีเอี่ยวกับการทุจริตจัดซื้ออาวุธและการพัฒนาซึ่งกำลังถูกสอบสวนอยู่ในขณะนี้
ในวันประกาศปลดหลี่ซังฝู ยังไม่มีการแต่งตั้งผู้นำใดมานั่งเก้าอี้แทน ปล่อยให้เก้าอี้นายใหญ่ของกระทรวงกลาโหมว่างลงในขณะที่อีก 5 วันปักกิ่งจะเปิดม่าน “เป่ยจิง เซียงซัน ฟอรัม” (Beijing Xiangshan Forum) ครั้งที่ 10 (29-31 ต.ค.2023) ซึ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศด้านความมั่นคงและกลาโหม สื่อจีนโกลบอล ไทมส์ เผยว่า การประชุมเป่ยจิง เซียงซัน ฟอรัม ปีนี้จะมีผู้เข้าร่วมมากเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นผู้แทนจากประเทศต่างๆ และองค์กรมากกว่า 90 ประเทศ/องค์กร รวมทั้งผู้แทนจากมหาอำนาจรัสเซีย และสหรัฐฯ ซึ่งยืนยันส่งผู้แทนเข้าร่วมในวันจันทร์ (23 ต.ค.)
อย่างไรก็ตาม วงในมองว่าจีนอาจต้องการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการทรวงกลาโหมคนใหม่มาต้อนรับขับสู้บรรดาเจ้าหน้าที่ภาคความมั่นคงและกลาโหมนานาชาติที่จะมาเข้าร่วม เป่ยจิง เซียงซัน ฟอรัม
การปลดผู้นำในคณะรัฐบาลทั้งสองนี้ ยังทำสถิติรัฐมนตรีจีนที่อยู่ในตำแหน่งเป็นระยะเวลาสั้นที่สุด กล่าวคือ ฉิน กัง เป็นรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ เพียง 207 วัน (หลังได้รับแต่งตั้งปลายเดือน ธ.ค.2022) ส่วนหลี่ซังฝู นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหมเพียงราว 7 เดือน (หลังได้รับแต่งตั้งเดือน มี.ค.)
ช่วงเพียงไม่กี่หลังจากจีนตั้งคณะรัฐบาลใหม่ในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ก็มีการถ่ายเลือดใหม่กลุ่มผู้นำซึ่งรวมทั้งการโยกย้ายผู้นำในกองกำลังขีปนาวุธแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน โดยผู้บัญชาการกองทัพกองกำลังขีปนาวุธคนก่อนหน้าคือ พล.อ.หลี่อี้เชา และ พล.อ.สีว์จงปัว คณะกรรมาธิการกรมการเมืองได้หายหน้าไปจากสาธารณะนานนับเดือน
จนกระทั่งในวันที่ 31 ก.ค. สี จิ้นผิงประธานคณะกรรมาธิการกลางการทหารประกาศเลื่อนยศ หวังโฮ่วปิน และสีว์ซีเซิ่ง ขึ้นเป็นพลเอก และแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังขีปนาวุธ และคณะกรรมธิการกรมการเมืองตามลำดับ ซึ่งเท่ากับว่า พล.อ.หลี่อี้เชา และ พล.อ.สีว์จงปัว ถูกปลดออกไปเรียบร้อยโรงเรียนจีน
การปลดผู้นำในกองทัพจรวดครั้งนี้นับเป็นการถ่ายเลือดครั้งใหญ่ในรอบสิบปีของกองทัพ กระตุ้นกระแสวิพากษ์วิจารณ์และคาดเดาไปต่างๆ นานา แต่ทางการจีนก็ไม่ได้เผยเหตุผลการปลดใด