รายงานของโกลบอลไทมส์สื่อทางการจีนระบุ ตัวแทนต่างชาติและจีนมีการเซ็นสัญญาเข้าร่วมยุทธศาสตร์ความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) มากกว่า 300 รายในวันแรกของการประชุมหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ (BRF) ครั้งที่ 3 ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-18 ต.ค.2566
การทำข้อตกลงเหล่านี้มีขึ้นระหว่างการประชุมซีอีโอหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road CEO Conference) ซึ่งเป็นการประชุมเวทีย่อยของภาคเอกชน นับเป็นการทำข้อตกลงมากเป็นประวัติการณ์ทั้งในแง่ของจำนวนข้อตกลง และมูลค่าของสัญญา โดยครอบคลุมทั้งข้อตกลงด้านปัญญาประดิษฐ์ ชีวการแพทย์ เกษตรกรรมสมัยใหม่ และบริการทางการเงิน
ผู้แทนกว่า 1,200 คนจากกว่า 80 ชาติและภูมิภาคได้ใช้เวลาไปใน “การเดินทางตามล่าโอกาส” ในวันแรกของการประชุม BRF โดยเล็งสร้างเครือข่ายธุรกิจใหม่ภายใต้ยุทธศาสตร์ความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ในการกล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมซีอีโอเพื่อเฉลิมฉลองการร่วมก่อสร้าง BRI ครบรอบ 10 ปี รองนายกรัฐมนตรีเหอ ลี่ เฟิงของจีนระบุว่า BRI แผ่ขยายไปทั่วโลกด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย โดย BRI กำลังเปลี่ยนแปลงรูปแบบของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและอุปทานในระดับโลกอย่างลึกซึ้ง ส่งเสริมการจัดสรรปัจจัยทรัพยากรอย่างเหมาะสม กลายเป็นสายแถบและเส้นทางของการพัฒนา ที่ก่อประโยชน์และนำความสุขมาให้ผู้คนทั่วโลก
ขณะที่คนในวงการอุตสาหกรรมมองว่า การเซ็นสัญญามากเป็นประวัติการณ์ครั้งนี้สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการต่างชาติที่มีต่อความสำเร็จของยุทธศาสตร์ความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และมองการพัฒนาขั้นต่อไปของ BRI ในเชิงบวก นอกจากนั้น ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อถือชื่อเสียงของจีนในฐานะมหาอำนาจระดับโลก ที่มีความรับผิดชอบในการสร้างหนทางไปสู่ความรุ่งเรืองมั่งคั่งร่วมกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง