ยอดผู้ติดเชื้อ “ไมโครพลาสมา” ในจีนพุ่งสูง ชี้มาตรการโควิดทำภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

การติดเชื้อ “ไมโครพลาสมา” (mycoplasma pneumoniae) พุ่งสูงทั่วประเทศจีนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยโรงพยาบาลท้องถิ่นในบางพื้นพบเด็กและเยาวชนที่ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เป็นผลมาจากมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อของโรคทางเดินหายใจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลให้ระดับภูมิคุ้มกันลดลง ในขณะที่นักภูมิคุ้มกันวิทยาในกว่างโจวเห็นว่า อาจเป็นผลมาจากการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไปในประเทศจีน

การติดเชื้อไมโครพลาสมาสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี ในกรุงปักกิ่ง การติดเชื้อไมโครพลาสมาจะแพร่หลายมากขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมถึงธันวาคมของทุกปี โดยทั่วไปจะถึงจุดสูงสุดประมาณเดือนพฤศจิกายน ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งกรุงปักกิ่งระบุว่าโรคปอดอักเสบจากเชื้อไมโครพลาสมาเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคปอดบวมในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวในเมืองหลวง

ความแออัดของนักเรียนหลังเปิดภาคเรียนใหม่ ประกอบกับไวรัสอื่น เช่น ไข้หวัดใหญ่ ทำให้การติดเชื้อไมโครพลาสมาพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการติดเชื้อ MPP เป็นผลมาจากมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อของโรคทางเดินหายใจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลให้ระดับภูมิคุ้มกันลดลง

รายงานระบุว่า โดยทั่วไปแล้ว มนุษย์มีความเสี่ยงต่อโรคไมโครพลาสมา แต่มักพบบ่อยในเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป เช่นเดียวกับวัยรุ่น

ไมโครพลาสมาสามารถส่งผ่านทางอากาศได้ ดังนั้น การแพร่กระจายของโรคจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีผู้คนหนาแน่น ปิดล้อม และมีการระบายอากาศไม่ดี หรือเมื่อมีความหนาแน่นของประชากรเพิ่มขึ้น หรือคุณภาพอากาศลดลง

หลี่ จวิน แพทย์จากแผนกโรคติดเชื้อของโรงพยาบาลมณฑลเจียงซูกล่าวกับสื่อว่า แม้เด็กและวัยรุ่นจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อไมโครพลาสมา แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือมีภาวะระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง

ที่มา โกลบอลไทมส์

ภาพเอเอฟพี