xs
xsm
sm
md
lg

จีนครองเก้าอี้สมาชิก ‘คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ’ สมัยที่ 6

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อวันอังคาร (10 ต.ค.) จีนได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) สมัยที่ 6 ทำให้จีนเป็นหนึ่งในรัฐที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีฯ บ่อยที่สุด

รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้จีนได้เป็นสมาชิกคณะมนตรีฯ ในปี 2006-2012 (ได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2009) ปี 2014-2016 ปี 2017-2019 และปี 2021-2023

จีนเป็นหนึ่งใน 15 รัฐที่ได้รับเลือกตั้งผ่านการลงคะแนนเสียงแบบลับโดยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติให้อยู่ในคณะมนตรีฯ อันมีสมาชิก 47 ราย เป็นระยะเวลา 3 ปี เริ่มต้นวันที่ 1 ม.ค.2024

ทั้งนี้ 15 รัฐข้างต้นแบ่งเป็นบุรุนดี โกตดิวัวร์ กานา มาลาวี (กลุ่มแอฟริกา) จีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น คูเวต (กลุ่มเอเชียแปซิฟิก) อัลบาเนีย บัลแกเรีย (กลุ่มยุโรปตะวันออก) บราซิล คิวบา สาธารณรัฐโดมินิกัน (กลุ่มละตินอเมริกาและแคริบเบียน) และฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ (กลุ่มยุโรปตะวันตกและรัฐอื่นๆ)

ด้านรัสเซียในกลุ่มยุโรปตะวันออก และเปรูในกลุ่มละตินอเมริกาและแคริบเบียนไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีฯ โดยรัสเซียไม่ผ่านเกณฑ์คะแนนเสียง 97 คะแนน ส่วนเปรูได้คะแนนเสียงสนับสนุน 108 คะแนน ทว่าคู่แข่งอีก 3 ประเทศในกลุ่มเดียวกันได้คะแนนเสียงมากกว่า

ขณะผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีฯ จากกลุ่มแอฟริกา เอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และรัฐอื่นๆ ได้รับชัยชนะอย่างง่ายดายเนื่องจากปราศจากคู่แข่ง โดยจีน โกตดิวัวร์ คิวบา ฝรั่งเศส และมาลาวี เป็นรัฐที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีฯ อีกครั้ง

ส่วน 10 รัฐที่จะพ้นจากการเป็นสมาชิกคณะมนตรีฯ ภายในสิ้นปีนี้ ได้แก่ กาบอง เซเนกัล (กลุ่มแอฟริกา) เนปาล ปากีสถาน อุซเบกิสถาน (กลุ่มเอเชียแปซิฟิก) สาธารณรัฐเช็ก ยูเครน (กลุ่มยุโรปตะวันออก) โบลิเวีย เม็กซิโก (กลุ่มละตินอเมริกาและแคริบเบียน) และสหราชอาณาจักร (กลุ่มยุโรปตะวันตกและรัฐอื่นๆ)

อนึ่ง คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ มีฐานอยู่ที่นครเจนีวา จัดเป็นหน่วยงานระหว่างรัฐบาลที่รับผิดชอบการส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วโลก โดยราวหนึ่งในสามของสมาชิกทั้งหมดจะถูกผลัดเปลี่ยนทุกปี และสมาชิกแต่ละรายมีวาระดำรงตำแหน่ง 3 ปี

การเป็นสมาชิกคณะมนตรีฯ ถูกจัดสรรบนพื้นฐานกลุ่มภูมิภาคเพื่อการเป็นตัวแทนในเชิงภูมิศาสตร์ แบ่งเป็นแอฟริกาและเอเชียแปซิฟิกกลุ่มละ 13 ที่นั่ง ละตินอเมริกาและแคริบเบียน 8 ที่นั่ง ยุโรปตะวันตกและรัฐอื่นๆ 7 ที่นั่ง และยุโรปตะวันออก 6 ที่นั่ง

ที่มา/ภาพ สำนักข่าวซินหัว




กำลังโหลดความคิดเห็น