กระทรวงต่างประเทศจีนตอบคำถามเรื่องเหตุโจมตีระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ โดยเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดการสู้รบ หวนคืนสู่สันติภาพ พร้อมยืนยันสนับสนุนการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์
นางเหมาหนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบคำถามของคณะผู้สื่อข่าวในวันที่ 9 ตุลาคม โดยมีผู้สื่อข่าวจำนวนมากถามเรื่องการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจากปาเลสไตน์ ซึ่งสื่อมวลชนรายงานว่าได้คร่าชีวิตผู้คนจากทั้งสองฝ่ายไปกว่า 1,200 คน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า จีนติดตามอย่างใกล้ชิดถึงความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล เสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียของพลเรือน คัดค้านและประณามการทำร้ายพลเรือน รัฐบาลจีนคัดค้านการความเคลื่อนไหวที่จะเพิ่มความขัดแย้งและทำลายเสถียรภาพ และหวังว่าการต่อสู้จะยุติลง สันติภาพจะหวนคืนมาโดยเร็ว ประชาคมนานาชาติจำเป็นต้องมีบทบาทที่จะร่วมกันที่บรรเทาสถานการณ์
หากพิจารณาจากการแถลงข่าวของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน จะเห็นว่ารัฐบาลจีนไม่ได้ประณามการกระทำของทั้งอิสราเอลหรือปาเลสไตน์ โดยย้ำถึงความจำเป็นในการหวนคืนสู่การเจรจาสันติภาพ แต่สังเกตได้ว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวถึง “แนวทาง 2 รัฐ” คือการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ และประเทศอิสราเอล รวมทั้งคลี่คลายปัญหาปาเลสไตน์อย่างสมบูรณ์และเหมาะสมด้วยวิถีทางการเมือง
จุดยืนสนับสนุนการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ของจีนมาจากมุมมองที่ว่า ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานกว่า 85 ปี ก็เพราะชาวปาเลสไตน์ไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน ชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนมีสภาพชีวิตที่ยากลำบาก ต้องอยู่อย่างหวาดผวา ถูกอิสราเอลล้อมกรอบและโจมตีอย่างต่อเนื่อง โดยความสูญเสียของฝ่ายปาเลสไตน์มากกว่าฝ่ายอิสราเอลหลายเท่าตัว
ปักกิ่งไม่ประณามฝ่ายใด
หลังเกิดเหตุโจมตีเมื่อวันเสาร์ (7 ต.ค.) สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำกรุงปักกิ่ง ระบุว่า คาดหวังให้จีนที่เป็นมิตรของอิสราเอล ประณามการกระทำของปาเลสไตน์ ที่โจมตี สังหาร และลักพาตัวประชาชนว่าเป็นการก่อการร้าย ทว่าโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เพียงแต่ยืนยันจุดยืนว่ากังวลอย่างลึกซึ้งต่อการยกระดับความขัดแย้ง พร้อมย้ำว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดในขณะนี้คือการยุติความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างกัน
เมื่อเสียงเรียกร้องให้จีนประณามปาเลสไตน์ไม่เป็นผล สถานทูตอิสราเอลก็ได้เรียกร้องผ่านสื่ออีกครั้งว่า คาดหวังที่จะได้เห็นจีนมี “การประณามที่รุนแรงขึ้น” ต่อกลุ่มฮามาส พร้อมโพสต์ภาพข้อความว่า “กลุ่มก่อการร้ายฮามาส = นักรบรัฐอิสลาม ISIS” และยังระบุว่า “นี่ไม่ใช่เวลาที่จะเรียกร้องแนวทาง 2 รัฐ”
นอกจากนี้ นายชัค ชูเมอร์ แกนนำวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ที่อยู่ในระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่งในขณะนี้ ได้แสดงความผิดหวังที่ทางการจีน “ขาดความเห็นอกเห็นใจ” และไม่ประณามกลุ่มฮามาส
แต่ทว่าโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุซ้ำๆ ว่า จีนยืนอยู่บนความเท่าเทียมและยุติธรรม เป็นมิตรกับทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ ต้องการเห็นทั้ง 2 ประเทศอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และข้อเสนอ 2 รัฐก็เป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุถึงสันติภาพ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ยังหลีกเลี่ยงที่จะระบุว่า การกระทำของกลุ่มฮามาสเป็นการก่อการร้ายหรือไม่? โดยกล่าวเพียงว่า จีนคัดค้านและประณามการทำร้ายพลเรือน
จีนรับบทตัวกลางสันติภาพ หลังความสำเร็จซาอุดีอาระเบีย-อิหร่าน
หลังจากจีนประสบความสำเร็จในการเป็นตัวกลางการเจรจาฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่าน
เมื่อต้นปีนี้ จีนก็มีความพยายามสานสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ นายมาห์มุด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์เดินทางเยือนจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และทางการจีนได้แต่งตั้งนายไจ๋จุ้น เป็นทูตพิเศษเรื่องตะวันออกกลาง
สื่อตะวันตกมักมองว่า จีนใกล้ชิดกับอิหร่าน ซึ่งหนุนหลังกลุ่มฮามาส และพยายามโยงให้จีนเรียกร้องให้อิหร่านกดดันให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันและยุติการโจมตีอิสราเอล แต่ว่าทางการจีนยืนยันให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยุติการต่อสู้ในทันที และหลีกเลี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
คำว่า “ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง” ของจีน ไม่ได้หมายถึงอิสราเอลและปาเลสไตน์เท่านั้น แต่ยังต้องการสื่อถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กล่าวกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลว่า สหรัฐฯ กำลังส่งความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯ เพิ่มเติมไปยังอิสราเอล และมีเพิ่มขึ้นอีกในช่วงหลายวันที่จะถึงนี้
ผู้นำสหรัฐฯ ยังให้คำมั่นสนับสนุนรัฐบาลและประชาชนอิสราเอลอย่างเต็มที่ โดยเน้นย้ำว่า "การก่อการร้ายไม่มีเหตุผลที่ชอบธรรม และทุกประเทศต้องเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อเผชิญหน้ากับความโหดร้ายทารุณนี้"
จีนมองว่า ชาติตะวันตกกำลังกดดันให้ประเทศต่างๆ “เลือกข้าง” ในสถานการณ์ความขัดแย้ง และมองว่า จีนต้องหนุนปาเลสไตน์ ต้านอิสราเอล ต้านสหรัฐฯ แต่ความจริงแล้ว สหรัฐฯ ได้เลือกข้างอิสราเอลอย่างชัดเจนมาตลอด เพราะกลุ่มอิทธิพลชาวยิวมีบทบาทอย่างมากในการเมืองสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งให้ย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอลจากรุงเทลอาวีฟ ไปเมืองเยรูซาเลม ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาท เป็นการราดน้ำมันบนกองไฟอย่างชัดเจน....นี่คือ สาเหตุที่จีนเรียกร้องว่าให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า ประสบการณ์ในการเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพซาอุดีอาระเบีย-อิหร่าน ได้พิสูจน์ว่า ไม่ว่าปัญหาจะซับซ้อนเพียงใด และท้าทายแค่ไหน แต่ถ้าหากฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการเจรจา บนพื้นฐานที่ “เท่าเทียมกัน” และ “เคารพซึ่งกันและกัน” ก็จะมีทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้อย่างแน่นอน