อย่างที่ทราบกันดี เศรษฐกิจไทยมีการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจอย่างสำคัญ ทว่า ไทยโดนโจมตีด้วยข่าวลบแบบดุเดือดในช่วงที่รัฐบาลจีนเพิ่งอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ทันข้ามเดือนในต้นปีนี้ ทั้งเรื่องขโมยไต ลักพาตัว และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถาโถมเข้ามาตลอดจนรัฐบาลไทยปล่อยแสงดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนด้วยนโยบายฟรีวีซ่าที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 ก.ย.ก่อนหน้าสัปดาห์ทองวันหยุดยาวที่ควบเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ และเทศกาลฉลองวันชาติจีนรวม 8 วัน ทว่า กระแสเมินฟรีวีซ่าของไทยในหน้าคอมเมนต์บนโซเชียลมีเดียจีนแรงไม่เบาเลย โดยส่วนใหญ่โจมตีความปลอดภัยในไทย ตัวอย่างเช่น “ฟรีไม่ฟรีวีซ่าก็ไม่ไป กลัวโดนตัดไต” “ลงเครื่องบินแล้วอาจโดนแก๊ง kk ลากตัวไป” “ใครจะกล้าไป”
เมื่อไม่นานมานี้ อินฟลูเอนเซอร์จีนรายหนึ่งได้ออกคลิป โปรยหัวข้อว่า “ท่องเที่ยวไทยเย็นยะเยือก !” นี่คือบรรยากาศการท่องเที่ยวไทยในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติจีน
เนื้อหาที่พูดในคลิปนี้โดยสรุปคือ “หนังเรื่องเดียวทำท่องเที่ยวไทย “เย็นยะเยือก…แช่แข็ง” ซึ่งอ้างอิงถึงภาพยนตร์จีนยอดฮิตเรื่อง No More Bets ตีแผ่วงในแก๊งฉ้อโกงทางไซเบอร์ สำหรับหนังเรื่องนี้ด้านหนึ่งเป็นการเตือนภัยแก๊งฉ้อโกงทางไซเบอร์ แต่อีกด้านหนึ่งทำให้นักท่องเที่ยวจีนหวาดกลัวและบ้างก็หลีกเลี่ยงมาเที่ยวประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบมากสุดคือ กัมพูชา พม่า และไทย ตามลำดับ
ในคลิปยังสัมภาษณ์นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (ATTA) ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร กล่าวถึงความรู้สึกเมื่อเห็นข่าวและกระแสคอมเมนต์ในโลกโซเชียลมีเดียจีน อย่างเช่น โต่วอิน (ติ๊กต็อกเวอร์ชันจีน) เสี่ยวหงซู ที่แพร่ออกไปให้ประชาชนจีนได้รับรู้นั้นมีแต่ด้านลบทั้งนั้น “ผมตื่นตระหนกตกใจกับเรื่องราวที่แพลตฟอร์มจีนเหล่านั้นรายงาน ทำไมถึงเผยแพร่แต่ข่าวด้านลบ เรื่องดีๆ ไม่เคยพูดถึงเลย”
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวไทยบ่นไม่ทันไร ก็เกิดเหตุยิงกราดที่ห้างพารากอน ทำให้คนจีนเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน ซึ่งเหยื่อทั้งสองเดินทางเข้าประเทศไทยตามมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราแก่นักท่องเที่ยวจีน
โลกโซเชียลจีนแห่แชร์เหตุการณ์ยิงกราดที่ห้างพารากอน จนคำค้นหา "เหตุยิงที่ห้างพารากอนทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต" ขึ้นเทรนด์อันดับ 2 ของเวยปั๋ว และมีคนอ่านมากกว่า 100 ล้านครั้ง
ความเห็นส่วนใหญ่แสดงความกังวลต่อความปลอดภัยในการท่องเที่ยวในไทย บางส่วนยกเลิกแผนการท่องเที่ยวไทย ในขณะเดียวกัน หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงการควบคุมการเข้าถึงปืนในไทย
ขอคัดเลือกคอมเมนต์ที่เป็นตัวแทนความรู้สึกหวาดกลัวและทัศนคติของชาวจีนต่อไทยที่ติดลบมากขึ้น
- “ไทยปั้นนักท่องเที่ยวจีนแทบตาย เด็กโรคจิตคนเดียวทำลายหมด”
- นักท่องเที่ยวจีนที่อยู่ในเหตุการณ์ยิงกราดพารากอนเมื่อบ่ายวันที่ 3 ต.ค. เล่านาทีระทึกในโซเชียลมีเดียจีน ผู้ใช้แพลตฟอร์มเสี่ยวหงซู (小红书) ชื่อบัญชี MOMO ให้สัมภาษณ์สื่อจีน “เจี้ยเมี้ยน ซินเหวิน” （界面新闻ว่า ตอนนั้นเธออยู่ที่ห้างสรรพสินค้า จู่ๆ ก็เห็นบรรดาพนักงานในร้านค้าวิ่งเผ่นหนีออกไปทางหนึ่ง ถามๆ แล้วถึงรู้ว่าเกิดเรื่องยิงกราด เธอบอกว่าตนเพิ่งมาถึงไทยในวันที่ 1 ต.ค. ตอนนี้ยังไม่คิดเปลี่ยนเปลี่ยนตารางท่องเที่ยวในไทย
- นักท่องเที่ยวจีนอีกคนเล่าว่า ในวันที่ 1 ต.ค. เขาได้ออกเดินทางจากเฉิงตู บินมาลงที่กรุงเทพฯ ตอนที่เกิดเหตุการณ์ยิงกราดเขาอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย เขาบอกกับสื่อจีนว่า ตอนนี้พวกเขาได้ยกเลิกโปรแกรมเที่ยวทั้งหมดไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับได้ซื้อตั๋วเที่ยวบินที่ออกเดินทางวันที่ 4 ต.ค. กลับประเทศ
- "ประเทศจีนของเราสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม เที่ยวเมืองจีนปลอดภัยกว่า"
- "ทำไมคนไปเที่ยวไทยเยอะขนาดนั้น"
- "ยังอยากไปกันไหม"
- "หลายวันก่อนเห็นไทยเว้นวีซ่าก็เตรียมไปแล้ว ส่วนตอนนี้ ..."
- "ใครยังกล้าไปเที่ยวไทยอีก"
- "ตอนนั้นอยู่ที่นั่น หมอบอยู่ใต้โต๊ะอาหารในร้านอาหาร ตกใจแทบตาย"
- "ฉันได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกสองนัด ไม่รู้จะไปทางไหน ได้แต่หลบอยู่ในห้องน้ำ 15 นาทีต่อมา ประตูห้องน้ำก็มีเสียงดังขึ้น หัวใจเต้นด้วยความกลัวจนจะหลุดออกมาเป็นยังไง ก็เพิ่งเข้าใจในวันนี้"
- "อย่าไปเมืองไทย"
- "ใครยังกล้าไปเที่ยวไทยอีก"
- "พักผ่อนอยู่ที่จีนน่ะดีแล้ว"
- "ไม่กล้าไปเที่ยวไทยแล้ว"
- “ประเทศไทยกลายเป็นที่ที่ไม่ปลอดภัยไปตั้งแต่เมื่อไหร่? ความประทับใจเรื่องรักษาความปลอดภัยของไทยเทียบกับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากสิงคโปร์แล้ว ไทยก็อยู่ในอันดับที่ 1..ที่ 2.. ”
- “ชาวไทยกว่า 10 ล้านคน มีปืน เท่ากับในทุก 100 คน มีปืน 15 กระบอกโดยประมาณ”
จากตัวอย่างคอมเมนต์จะเห็นได้ว่าภาพลักษณ์ความปลอดภัยไทยร่วงลงเหวลึกมากขึ้นไปอีก เป็นปัจจัยให้ชาวจีนจำนวนมากขึ้นเมินมาเที่ยวไทยและหันไปสนับสนุนนโยบายรัฐบาลจีนที่กำลังรณรงค์ให้ “ชาวจีนเที่ยวเมืองจีนช่วยเศรษฐกิจชาติ” ซึ่งก็ดูได้ผลดีในช่วงเทศกาลวันหยุดก่อนหน้านี้ ตามแหล่งท่องเที่ยวจีนกลายเป็นทะเลคนอย่างน่าตื่นตะลึง
เหตุยิงกราดพารากอนเสมือน “หินก้อนใหญ่อีกก้อน” ที่หล่นลงมาขวางเส้นทางดึงดูดนักเที่ยวจีนจีนกลับมา มันจะสร้างความเสียหายแก่ภาคท่องเที่ยวไทยแค่ไหนก็ยังไม่อาจนับประเมินได้ในเวลานี้ และไทยจะปล่อยแสงอะไรออกมาอีก...
