นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ออกโรงต้อนรับขับสู้กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยในวันที่ 25 ก.ย. ซึ่งเป็นวันแรกที่ไทยบังคับใช้นโยบายฟรีวีซ่า หรือยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนด้วยหวังสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวจีนกลับไปบอกต่อเพื่อนร่วมชาติ.... นโยบายฟรีวีซ่าเป็นความหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนมาไทยมากขึ้น ทว่า เส้นทางที่จะสมหวังก็ดูไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กลับมี “หินก้อนใหญ่อีกก้อน” หล่นลงมาขวางทางสู่เป้าหมาย
เป็นที่เลื่องลือว่าเมื่อก่อนไทยเป็นแดนสวรรค์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ ช่วงปี 2019 ก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยทะลุ 10 ล้านคน ทว่า มาถึงช่วงเกิดโรคระบาดโควิด ตามแหล่งท่องเที่ยวไทยก็กลายเป็นป่าช้าเกือบ 3 ปี หลังจากที่จีนเปิดประเทศอนุญาตการท่องเที่ยวขาออกอย่างค่อยเป็นค่อยไปและไฟเขียวกรุ๊ปทัวร์จีนเข้ามาไทยในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้นำไทยก็หัวใจฟูหวังว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่จะหวนกลับมาไทยช่วยกระตุ้นการขยายตัวเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีภาคการท่องเที่ยวช่วยอัดฉีดน้ำเลี้ยงถึง 18 เปอร์เซ็นต์
ทว่า ในเดือนเดียวกันมีการปล่อยคลิปข่าวลือแก๊งลักพาตัวและขโมยควักไตในไทยที่พุ่งเป้าหมายเหยื่อนักท่องเที่ยวจีนและกลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียลมีเดียจีนนานนับเดือนๆ จนถึงวันที่ไทยประกาศให้ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน (13 ก.ย.) คอมเมนต์ท้ายข่าวประเด็นนี้ที่กลุ่มสื่อจีนนำไปเผยแพร่ ก็เต็มไปด้วยการสนทนาปั่นกระแสเมืองไทยอันตรายจากแก๊งลักพาตัว ค้ามนุษย์ ขโมยไต
การท่องเที่ยวไทย (ททท.) ตั้งเป้านักท่องเที่ยวจีนจะมาเที่ยวไทยในปีนี้ไว้ที่ 5.3 ล้านคน ต่อมาก็ปรับลดตัวเลขนี้เหลือ 4.3 ล้านคน จากข้อมูลสถิตินับถึงเดือน ส.ค. ระบุจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยเท่ากับ 2.3 ล้านคนเท่านั้น! ข้อมูลใหม่ล่าสุดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไทย ระบุว่าระหว่างวันที่ 31 ก.ค.-6 ส.ค. ปี 2023 นี้ นักท่องเที่ยวชาวจีนตกแท่น “แหล่งนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหญ่” ของไทย ด้านข้อมูลสถิติจีนระบุนักท่องเที่ยวแผ่นดินใหญ่กลับมาเที่ยวไทยราว 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น!
ในขณะที่รัฐบาลไทยผลักดันฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องที่ยวจีน จีนจับมือกับเพื่อนบ้านจัดหนักปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมแก๊งฉ้อโกงทางไซเบอร์ หรือแก๊งภัยคอลเซ็นเตอร์ แก๊งลักพาตัว-ค้ามนุษย์ในประเทศเพื่อนบ้าน และสื่อจีนได้นำเสนอข่าวการปราบปรามนี้แทบทุกวี่วัน ในด้านของจีนก็เพื่อเป็นการเตือนประชาชนให้ระวังภัยเหล่านี้ แต่ผลกระทบที่ตามมาคือ การหลีกเลี่ยงเดินทางมาประเทศที่มีความเสี่ยงอันตรายดังกล่าวซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย
จากรายงานข่าวของสื่อจีน ในไม่กี่เดือนมานี้ตำรวจจีนจับกุมทลายแก๊งฉ้อโกง และจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นจำนวนนับพันคน ขณะที่สหประชาชาติระบุว่า จำนวนผู้ที่ถูกหลอกลวงและขายให้เหล่าแก๊งฉ้อโกงต่างๆ ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากถึงหลายแสนคน
ในวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ภาพยนตร์จีนฟอร์มยักษ์ เรื่อง No More Bets 《孤注一掷》ชื่อเรื่องที่หมายถึง “ทุ่มสุดตัวเดิมพันครั้งสุดท้าย” ตีแผ่วงในแก๊งภัยคอลเซ็นเตอร์ก็เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ และได้ทุบสถิติปังในการโกยรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ ข้อมูลล่าสุดระบุว่า No More Bets โกยรายได้ 3.8 พันล้านหยวน (หรือราว 521 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 18,913 ล้านบาท) ขึ้นแท่นหนังทำรายได้สูงเป็นอันดับที่ 3 ของจีน และจะขึ้นแท่นท็อปเทนหนังทำรายได้สูงสุดตลอดกาล
No More Bets เป็นหนังดรามาอาชญากรรมระทึกขวัญ ตีแผ่วงห่วงโซ่ทั้งหมดของแก๊งฉ้อโกงผ่านโลกไซเบอร์อย่างสมจริงผุดๆ ตัวอย่างหนังระบุว่าหนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงนับหมื่นคดีทีเดียว พล็อตเรื่องในหนังคือ โปรแกรมเมอร์หนุ่มและนางแบบสาวชาวจีนถูกแก๊งค้ามนุษย์ล่อหลอกด้วยค่าจ้างสูงลิบมาทำงานที่ศูนย์บงการอาชญากรรมแห่งหนึ่งในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ในหนังไม่ได้ระบุชื่อประเทศที่ตั้งของศูนย์บงการการฉ้อโกงผ่านโลกไซเบอร์ ทว่า ตัวละครที่สวมบทเป็นเหยื่อจำนวนมากที่ถูกหลอกมาทำงานในแก๊งสวมเสื้อมีตัวอักษรภาษาเขมร นอกจากนี้ รถบัสที่เหยื่อโดนหลอกโดยสารก็เขียนภาษาเขมรที่ข้างตัวรถ และอีกฉากเป็นภาพสถานที่ที่เหยื่อถูกลักพาตัวคล้ายประเทศไทยอย่างมาก
ในหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากระทึกใจถึงความเป็นความตาย การทำร้ายทรมานเหยื่อที่แก๊งอาชญากรรมหลอกมาทำงานอย่างโหดเหี้ยม เลาะเล็บ บิดหูจนหูฉีกขาด ช็อตไฟฟ้าจนเล็บหลุดหาย
นอกจากนี้ คำโปรยบนโปสเตอร์หนังเขียนว่า “More Watching, One Less Deceived” หมายถึง “หนึ่งคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้จะช่วยลดเหยื่อถูกหลอกหนึ่งคน”
ภาพยนตร์ No More Bets แฝงคำเตือนที่ดังปังมากต่อภัยอันตรายแก๊งภัยคอลเซ็นเตอร์ ลักพาตัว ค้ามนุษย์ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากชะลอการมาเที่ยวในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สื่อชั้นนำของจีนอย่าง เดอะ เปเปอร์ แห่งเซี่ยงไฮ้ พาดหัวข่าวแบบตั้งคำถามว่า “หนัง No More Bets เป็นคู่มือนำเที่ยวที่แนะให้หลีกเลี่ยงไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้?”
สื่อสังคมออนไลน์จีนยอดนิยม ‘เวยปั๋ว’ เผยผลสำรวจเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ระบุว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของชาวจีน 54,000 คนที่ตอบคำถาม บอกว่าจะไม่มาเที่ยวประเทศอาเซียนเพราะวิตกเรื่องความปลอดภัย
ดังนั้น ประเทศที่เสียหายมากที่สุดคือ กัมพูชา รองลงมาคือพม่า และไทย ถึงกับมีการโปรยคำในคลิปชิ้นหนึ่งที่พูดถึงผลกระทบหนังเรื่องนี้ต่อการท่องเที่ยวกัมพูชาว่า “หนังจีนเรื่องเดียว เขมรเสียวทั้งประเทศ” สำหรับไทยซึ่งโดนกระทบไม่น้อยจากหนัง No More Bets เหมือนโดนหินก้อนใหญ่อีกก้อนหล่นมาขวางทางดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนมากลับ
นักศึกษาวัย 22 ปีในปักกิ่ง กล่าวว่า เธอคิดว่าบางเรื่องก็มีการ “ใส่สีตีไข่” แต่ถึงกระนั้นก็กังวลการเดินทางมาไทย
“ฉันกลัวเหลือเกินว่าจะโดนแก๊งค้ามนุษย์จับตัวและส่งไปที่ประเทศอื่น อย่างเช่น เขมร พม่า” นักศึกษาในปักกิ่งกล่าว
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือแอตต้า (ATTA) ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า การสนทนาในเชิงลบโจมตีความปลอดภัยในไทยเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนจีนมาเที่ยวน้อยลง
“เรื่องไม่ได้เกิดในไทย แต่ไทยโดนเพ่งเล็งไปด้วย” นายศิษฎิวัชร กล่าว
ขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวในประเทศจีนกำลังบูม เอเยนซีบริการท่องเที่ยวรายหนึ่งในปักกิ่งที่ขอสงวนชื่อ บอกว่าตอนนี้สต๊าฟกำลังยุ่งมากกับการจัดโปรโมชันช่วงวันหยุด บริษัทเคยมีพนักงานถึง 200 คน แต่ตอนนี้ลดลงมาเหลือไม่กี่สิบคนเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การขอวีซ่าที่ยากมากขึ้น และการฟื้นตัวในอุตสาหกรรมการบินที่เชื่องช้า
“ลูกค้าที่ไปเที่ยวต่างประเทศมีไม่มากนัก” พนักงานคนหนึ่งกล่าว และพูดถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ว่า “หลายคนกลัวว่าไปแล้วจะไม่ได้กลับมา”
นักท่องเที่ยวชาวจีนแซ่เจี่ย พาครอบครัวมาชมวัดพระพระแก้ว บอกว่าเธอไม่ได้กลัวเหมือนกับที่หลายคนในจีนกลัวกัน ไทยไม่ใช่สถานที่อันตรายมีแก๊งฉ้อโกงหรืออันตรายต่างๆ อย่างที่ชาวเน็ตพูดกันไปทั่ว
ด้าน ฉาย สิวลิน (Chhay Sivlin) นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งกัมพูชา เผยว่าสถานการณ์ตอนนี้แย่หนักมาก ปีนี้บริษัทของเธอไม่มีลูกค้าที่เป็นกรุ๊ปทัวร์จากจีนเลย นักท่องเที่ยวจำนวนมากกังวลเรื่องความปลอดภัย
“หากรัฐบาลจีนจะช่วย เราจะมีลูกค้ากรุ๊ปทัวร์จีนในเร็วๆ นี้เพราะคนจีนเชื่อฟังรัฐบาลมาก”
ล่าสุด ในวันอังคาร (26 ก.ย.) ทางกัมพูชาได้แบนหนัง No More Bets พร้อมกันนี้กระทรวงวัฒนธรรมกัมพูชาได้ร่อนหนังสือถึงรัฐบาลจีน ร้องเรียนว่าหนัง No More Bets ทำชื่อเสียงของกัมพูชาเสียหายหนักมาก ทำลายการท่องเที่ยวของประเทศอย่างรุนแรง.
คลิป รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย “นักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่กลับมาเที่ยวไทยเพียง 20 เปอร์เซ็นต์! ไทยไฟเขียวฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนนาน 5 เดือน แต่หนัง No More Bets กลายเป็นหินก้อนใหญ่ที่ขวางทางดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน
No More Bets - Official Trailer