xs
xsm
sm
md
lg

ผลสำรวจชี้บริษัทอเมริกันมองตลาดจีนน่าสนใจน้อยลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ร้านซาร่า (Zara) แบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับชั้นนำระดับโลกของสเปนในห้างสรรพสินค้าที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2566 - ภาพ : เอพี
บริษัทอเมริกันในจีนมองความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับปักกิ่งในด้านการค้า เทคโนโลยี และในประเด็นอื่นๆ เป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับการดำเนินธุรกิจบนแดนมังกร

หอการค้าอเมริกันในนครเซี่ยงไฮ้ 
เปิดเผยผลสำรวจบริษัทอเมริกันในจีนประจำปีเมื่อวันอังคาร (19 ก.ย.) พบว่า 2 ใน 3 ของบริษัทจำนวน 325 รายยังไม่มีแผนเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์เกี่ยวกับจีนในทันที แต่กว่า 1 ใน 5 ได้ลดการลงทุนในจีนปีนี้แล้ว ด้วยเหตุผลสำคัญที่สุดคือวิตกสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน จากปัญหาความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน และการคาดหมายเศรษฐกิจจีนจะชะลอการเติบโตเป็นเหตุผลสำคัญรองลงมา

 
ขณะที่บริษัทซึ่งมองแนวโน้มธุรกิจ 5 ปีข้างหน้าของตนในจีนในแง่ดีมีเพียงร้อยละ 52 ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุด นับตั้งแต่หอการค้าอเมริกันเริ่มการสำรวจประจำปีเมื่อปี 2542
 
นอกจากนั้น บริษัทอเมริกันส่วนใหญ่ยังระบุว่า ต้นทุนที่ถีบตัวสูงขึ้นเป็นปัญหาท้าทายสำคัญ และมองว่าตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบจากการออกนโยบายของรัฐบาลปักกิ่ง ที่เอื้อประโยชน์ให้บริษัทท้องถิ่นมากกว่าบริษัทต่างชาติ และการตัดสินของศาลจีนเกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เช่น สิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าก็มีแนวโน้มสนับสนุนบริษัทของจีน

 
บริษัทอเมริกันยังเรียกร้องให้รัฐบาลจีนออกกฎระเบียบต่างๆ ให้ชัดเจนเพื่อให้การดำเนินธุรกิจไม่ขัดต่อกฎหมาย


บริษัทขายเทคโนโลยีด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ รวมไปถึงบริษัทด้านการศึกษา การฝึกอบรม การเงินและการธนาคารอยู่ในกลุ่มไม่ให้ความมุ่งมั่นกับตลาดจีนเหมือนแต่ก่อน


ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า ความสำคัญของจีนในฐานะจุดหมายการลงทุนในต่างแดนได้ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นของบริษัทอเมริกันก็แย่กว่าปีก่อน ซึ่งจีนบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจหยุดชะงัก และบริษัทต่างๆ นำปัจจัยข้อนี้มาอ้างเพื่อขยายการดำเนินงานนอกประเทศจีน โดยบริษัทอเมริกันร้อยละ 40 ย้ายการลงทุนไปชาติแถบอาเซียนมากที่สุด รองลงมาคือสหรัฐฯ และเม็กซิโก

ที่มา : เอพี



กำลังโหลดความคิดเห็น