นักท่องเที่ยวชาวจีนอย่าง “เฉาลี่” รีบกดจองเที่ยวบินและห้องพักโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่อย่างรวดเร็ว หลังจากเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย ประกาศการดำเนินมาตรการฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวจีน ระยะ 5 เดือน (25 ก.ย.2023-29 ก.พ.2024) เมื่อวันพุธ (13 ก.ย.) ที่ผ่านมา
บรรดาคนแวดวงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีน คาดการณ์ว่าการดำเนินมาตรการฟรีวีซ่านี้มีเป้าหมายกระตุ้นการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเยือนไทยระหว่างช่วงหยุดยาววันชาติจีนในเดือนตุลาคมปีนี้ และช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
เฉาลี่ และสามีจากกรุงปักกิ่ง ซึ่งเพิ่งเดินทางมาเที่ยวกรุงเทพฯ นาน 10 วัน จึงตั้งตารอการเดินทางท่องเที่ยวไทยครั้งใหม่ในช่วงปลายปีนี้ โดยนอกจากจุดหมายชื่อดังอย่างกรุงเทพฯ และเชียงใหม่แล้ว เธอยังวางแผนจะใช้โอกาสจากมาตรการฟรีวีซ่าเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองเล็กๆ ของไทยในอนาคตอีกด้วย
“ไทย” ครองแชมป์ตลาดการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีน
ตลาดการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีนนั้นฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและคึกคักยิ่งขึ้นในช่วงฤดูร้อน หลังจากจีนกลับมาเปิดการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเมื่อต้นปีนี้ โดยข้อมูลจากฟลิกกี (Fliggy) แพลตฟอร์มบริการการท่องเที่ยวของอาลีบาบา ระบุว่า ปริมาณการใช้บริการด้านวีซ่าช่วงฤดูร้อนสูงเกินช่วงเดียวกันของปี 2019 แล้ว
ขณะ “ไทย” เป็นหนึ่งในประเทศและภูมิภาค ชุดที่ 1 ที่กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน ประกาศอนุญาตบริษัทนำเที่ยวภายในประเทศให้บริการการเดินทางท่องเที่ยวแบบหมู่คณะหรือกรุ๊ปทัวร์ รวมถึงบริการแพกเกจ “บัตรโดยสารเที่ยวบิน+ห้องพักโรงแรม”
ฟลิกกีเผยว่ากรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในสิบเมืองต่างแดนยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชาวจีนจองห้องพัก โดยกรุงเทพฯ เป็นเมืองต่างแดนที่มีการจองห้องพักผ่านฟลิกกีสูงสุดในช่วงฤดูร้อนนี้ของจีน ด้านทางการไทยเผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เยือนไทยในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนเกือบ 1 แสนคน หรือร้อยละ 30
รายงานสถิติการท่องเที่ยวต่างประเทศระยะครึ่งแรกของปี 2023 จากสถาบันการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ระบุว่า นอกจากเขตบริการพิเศษฮ่องกง เขตบริหารพิเศษมาเก๊า และเกาะไต้หวันของจีนแล้ว ไทยเป็นตัวเลือกแรกของนักท่องเที่ยวชาวจีนในการท่องเที่ยวต่างประเทศช่วงครึ่งปีแรก
รายงานข้างต้นระบุว่า ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน รับรองนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่ในช่วงครึ่งปีแรกเกือบร้อยละ 80 เนื่องด้วยมีที่ตั้งใกล้เคียง เดินทางเข้าถึงง่าย และความสะดวกด้านวีซ่า ขณะส่วนที่เหลืออื่นๆ เดินทางไปไทย (ร้อยละ 3.27) ญี่ปุ่น (ร้อยละ 2.42) และสิงคโปร์ (ร้อยละ 1.75)
ความต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป
ตลาดการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีนในยุคหลังโรคระบาดใหญ่เกิดกระแสนักท่องเที่ยววัยรุ่น การท่องเที่ยวแบบจัดการเอง และกรุ๊ปทัวร์คุณภาพสูง โดยฟลิกกีเผยว่าหลังจากจองบัตรโดยสารเที่ยวบินและห้องพักโรงแรม นักท่องเที่ยววัยรุ่นมักเลือกสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมวันเดย์ทริปตามเวลาและความสนใจของตัวเอง
ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมส่งเสริม “ปีท่องเที่ยวไทย 2023” ซึ่งมุ่งเจาะตลาดจีนด้วยการมอบประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวที่สร้างความสุข เติมเต็มชีวิตจิตใจ และใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้นแก่เหล่านักท่องเที่ยวชาวจีน ผ่านการยกระดับทรัพยากร การบริการ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน การเปิดบริการขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนของทางรถไฟจีน-ลาว เมื่อเดือนเมษายนปีนี้ช่วยเพิ่มตัวเลือกแก่นักท่องเที่ยวชาวจีน โดยซู่หง ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. ประจำนครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ให้สัมภาษณ์ว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากสนใจเดินทางเข้าไทยผ่านด่านบกและเดินทางต่อไปท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
ทั้งนี้ สำนักงาน ททท. ประจำนครคุนหมิง วางแผนจัดกิจกรรมครั้งยิ่งใหญ่ช่วงเทศกาลลอยกระทงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เพื่อดึงดูดบรรดานักท่องเที่ยวตลอดแนวเส้นทางทางรถไฟจีน-ลาว เดินทางเยือนไทย
การท่องเที่ยวจีน-ไทย ฟื้นตัวมั่นคงต่อเนื่อง
ตลาดการท่องเที่ยวจีน-ไทย ได้ฟื้นตัวอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง ขณะจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศ การเข้าพักโรงแรม และบุคลากรด้านการท่องเที่ยวทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยสำนักบริหารการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน ระบุว่าจำนวนผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศของจีนในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 8.24 แสนคน หรือร้อยละ 32.5
อย่างไรก็ดี จำนวนเที่ยวบินโดยสารระหว่างจีนและไทยในปัจจุบันยังคงน้อยอยู่อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงมีความไม่แน่นอนและอาจถูกยกเลิกการเดินทางโดยง่าย ดังเช่นหญิงแซ่จูจากเมืองไท่หยวน ของมณฑลซานซีที่เดินทางมาเที่ยวไทยถูกยกเลิกเที่ยวบินตรงกลับจีน 2 ครั้ง และถูกเปลี่ยนเป็นเที่ยวบินแบบแวะเปลี่ยนเครื่อง
นอกจากปัญหาความไม่ราบรื่นของเที่ยวบินระหว่างประเทศแล้ว เรื่องค่าใช้จ่ายและความปลอดภัยถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งอิทธิพลต่อการเดินทางมาท่องเที่ยวไทยด้วย โดยจูหงอิง ประธานบริษัทนำเที่ยวอวิ๋นหนาน จิ่นอ้าย กรุ๊ป เผยว่าผู้คนลดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวลงตามสภาพเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันค่าห้องพักโรงแรมและบัตรโดยสารเที่ยวบินสู่ไทยนั้นปรับขึ้น ส่วนรายงานข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยในไทยมีผลกระทบต่อความสนใจของนักท่องเที่ยววัยกลางและอายุสูง ซึ่งคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เลือกเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์
ด้านรัฐบาลไทยกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับประกันความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยมีการบูรณาการมาตรฐานการบริการ มาตรการความปลอดภัย และมาตรการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงพัฒนาแนวปฏิบัติและนโยบายการรับรองผู้มาเยือน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยวไทย