บทบรรณาธิการของโกลบอลไทมส์ สื่อทางการจีนฉบับวันจันทร์ (28 ส.ค.) มาแรง
เรียกร้องในฐานะสื่อเลือดมังกร ขอให้บริติชมิวเซียมในกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งในโลก คืนโบราณวัตถุของจีน ซึ่งถูกอังกฤษขโมยไปในช่วงเหตุการณ์ความวุ่นวายที่อังกฤษก่อขึ้นในจีนสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 รวมจำนวน 23,000 ชิ้น เช่น ภาพวาดสมัยราชวงศ์ถัง และแจกันสำริดสมัยเริ่มแรกอารยธรรมจีน โดยที่จีนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการมอบคืน
นอกจากนั้น ยังประกาศสนับสนุนชาติอื่นๆเช่น อินเดีย ไนจีเรีย และแอฟริกาใต้ ที่เรียกร้องค่าเสียหายจากกรณีถูกอังกฤษปล้นโบราณวัตถุไป โดยขอรัฐบาลอังกฤษให้ความร่วมมือ เพื่อยืนยันความจริงใจในการชำระคราบอาณานิคมและแก้ไขความผิดบาปของอังกฤษในประวัติศาสตร์
จีนเป็นชาติที่ 2 ที่ออกมาทวงคืนต่อหน้าสาธารณชน ถัดจากกรีซ ซึ่งทวงคืนประติมากรรมพาร์เธนอน ด้วยวิตกความปลอดภัยของโบราณวัตถุ หลังจากเมื่อไม่นานเกิดคดีอื้อฉาว วัตถุล้ำค่าเกือบ 2 พันชิ้น มูลค่าหลายล้านปอนด์ล่องหนไปจากบริติชมิวเซียม โดยเชื่อกันว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนในพิพิธภัณฑ์เอง เพราะพิพิธภัณฑ์ไม่ยักตรวจพบการย่องเบาของหัวขโมยที่ทำมานานหลายปี ข้าวของที่สูญหายบางชิ้นมีอายุถึง 3,500 ปี
บทบรรณาธิการตั้งคำถามว่า จนป่านนี้แล้วเหตุใดทางพิพิธภัณฑ์และตำรวจอังกฤษจึงยังไม่เปิดเผยรูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับศิลปวัตถุและโบราณวัตถุที่หายไป ซึ่งอาจหายไปมากกว่า 2 พันชิ้นด้วยซ้ำ คดีอื้อฉาวนี้ถือเป็นความล่มสลายของพิพิธภัณฑ์โอฬารอย่างบริติชมิวเซียม ที่คุยว่า ดูแลรักษาสมบัติวัฒนธรรมของต่างชาติดีกว่าใคร
นอกจากนั้น ยังระบุว่า ของสะสมมหึมามากถึง 8 ล้านชิ้นที่นี่ ส่วนใหญ่ได้มาจากชาติอื่น และส่วนหนึ่งซึ่งมีจำนวนไม่น้อยได้มาผ่านช่องทางที่ไม่ถูกต้อง หรือแม้กระทั่งด้วยวิธีการสกปรกและผิดบาป ผลลัพธ์ก็คือพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงได้ชื่อว่า ผู้รับของโจรรายใหญ่ที่สุดในโลก และจัดแสดงสมบัติวัฒนธรรมที่ถูกลักขโมยมา
พร้อมกับแนะให้อังกฤษ ซึ่งมักมีคุณธรรมสูงส่งกว่าผู้อื่นอยู่เสมอนั้น ควรชดใช้หนี้ที่ก่อในประวัติศาสตร์แห่งการเป็นเจ้าอาณานิคมที่นองเลือดและน่ารังเกียจก่อนเป็นอันดับแรก
บทบรรณาธิการเดือดปรากฏขึ้นก่อนหน้าการมาเยือนกรุงปักกิ่งของนายเจมส์ เคลเวอร์ลี รมว.ต่างประเทศอังกฤษในอีกไม่กี่วัน เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์จากความไม่ร่องรอยกรณีพรรคคอมมิวนิสต์จีนปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง และจากประเด็นอื่นๆ โดยประเด็นทวงคืนสมบัตินี้อาจทำให้ความบาดหมางร้าวลึก
บทบรรณาธิการชิ้นนี้และแฮชแท็ก “บริติชมิวเซียมโปรดคืนโบราณวัตถุของจีน” ติดเทรนด์อันดับหนึ่งของหัวข้อที่มีผู้ให้ความสนใจมากที่สุดบนแพลตฟอร์มเวยปั๋วเมื่อวันจันทร์ (28 ส.ค.) มียอดวิวกว่า 500 ล้านครั้ง โดยชาวเน็ตความเห็นแตกเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่ายที่เห็นด้วยกับบทบรรณาธิการ กับฝ่ายที่มองว่า รัฐบาลจีนพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของผู้คนจากปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่
ที่มา : โกลบอลไทมส์/บลูมเบิร์ก/เดอะเทเลกราฟ