โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนชี้แจง การสร้างโรงเรียนประจำหรือโรงเรียนกินนอนในเขตปกครองตนเองซีจ้าง (ทิเบต) เป็นการปกป้องสิทธิมนุษยชน มิใช่การบีบบังคับเพื่อกลืนภาษาและวัฒนธรรมอย่างที่สหรัฐฯ กล่าวหา
จากกรณีรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศมาตรการควบคุมการออกวีซ่าให้เจ้าหน้าที่จีน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินนโยบายบีบบังคับเด็กชาวทิเบตกว่าหนึ่งล้านคนเข้ามาศึกษาในโรงเรียนกินนอนของรัฐบาลในซีจ้าง โดยระบุว่า รัฐบาลปักกิ่งดำเนิน “นโยบายบีบบังคับ” ประชากรทิเบต เพื่อหาทางกลืนทิเบต ด้วยการกำจัดความเป็นเอกลักษณ์ด้านภาษา วัฒนธรรม และประเพณีทางศาสนาในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ชาวทิเบตนั้น
นายหวัง เหวินปิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนตอบโต้เมื่อวันพุธ (23 ส.ค.) ว่า จีนขอประณามและคัดค้านอย่างเด็ดขาดต่อมาตรการคว่ำบาตรวีซ่าของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แทรกแซงกิจการภายในของจีนและละเมิดบรรทัดฐานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมกับยืนยันว่า สภาพสิทธิมนุษยชนในซีจ้างขณะนี้อยู่ในขั้นดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของที่นี่ ซึ่งประชาคมระหว่างประเทศเป็นประจักษ์พยาน โดยภูมิภาคแห่งนี้มีเศรษฐกิจรุ่งเรือง มีความปรองดองและเสถียรภาพในสังคม อีกทั้งมรดกวัฒนธรรมได้รับการปกป้องส่งเสริม ซึ่งจีนให้การปกป้องสิทธิและเสรีภาพของทุกกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศอย่างเต็มที่
นอกจากนั้น แทนการสร้างภาพเป็นผู้พิพากษากวัดแกว่งไม้เรียว “สิทธิมนุษยชน” ก้าวก่ายกิจการภายในของชาติอื่นๆอย่างไร้ความรับผิดชอบ นายหวัง ยังเตือนให้สหรัฐฯ ย้อนดูตัวเองที่เข่นฆ่าคนพื้นเมืองในอเมริกา 4 ล้าน 7 แสนคน และการรุกรานของทหารสหรัฐฯ ที่นำไปสู่การล้มตายของผู้คนหลายล้านในอิรัก อัฟกานิสถาน ลิเบีย และซีเรีย
จากการลงพื้นที่สอบสวนของคณะผู้สื่อข่าวโกลบอลไทมส์ ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีนเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า สาเหตุสำคัญ 2 ประการ ที่รัฐต้องจัดทำโรงเรียนประจำให้แก่เด็กๆ ในซีจ้าง เนื่องจากการอาศัยอย่างกระจัดกระจายของประชากรทำให้การสร้างโรงเรียนใกล้ชุมชนทำได้ยาก และด้วยภูมิประเทศที่ราบสูงชันทำให้เด็กๆ เดินทางมาโรงเรียนลำบาก
โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนยืนยันว่า โรงเรียนกินนอนในซีจ้างคือตัวอย่างของการปกป้องสิทธิมนุษยชนและมรดกวัฒนธรรม การบีบบังคับเพื่อการกลืนอย่างที่สหรัฐฯ เรียกนั้นจึงเป็นการกุเรื่องอย่างชัดเจน
นายหลี่ ไห่ตง อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยการต่างประเทศจีนมองว่า มาตรการควบคุมการออกวีซ่า ที่สหรัฐฯ ประกาศมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนขบวนการแบ่งแยกดินแดนในซีจ้าง เพราะสหรัฐฯ ต้องการใช้ประเด็นที่เกี่ยวกับซีจ้างมาทำให้จีนตกอยู่ในสภาพแบบเดียวกับคาบสมุทรบอลข่านคือดินแดนแตกออกเป็นรัฐเล็กรัฐน้อยที่ไม่เป็นมิตรกัน เพื่อที่จีนจะได้ไม่สามารถท้าทายตำแหน่งผู้นำโลกของสหรัฐฯ ได้นั่นเอง
ทั้งนี้ การประกาศมาตรการควบคุมการออกวีซ่าของสหรัฐฯ เป็นการสร้างปมขัดแย้งใหม่กับจีน ทั้งที่นางจินา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ใกล้จะไปเยือนจีน เพื่อจัดการแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ตึงเครียดด้านเศรษฐกิจระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และชาติทั้งสองต่างก็ให้ความสำคัญกับการเยือนครั้งนี้
ที่มา : โกลบอลไทมส์ / เดอะฮิลล์