เมื่อวันอังคาร (22 ส.ค.) เขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) ของจีนเปิดเผยแผนการห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางทะเลบางชนิดจากญี่ปุ่น ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) หลังจากญี่ปุ่นประกาศปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนนิวเคลียร์
เซี่ยจ่านหวน (Tse Chin-wan) เลขาธิการด้านสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาของรัฐบาลฮ่องกง ระบุว่ารัฐบาลฮ่องกงจำเป็นต้องใช้มาตรการป้องกันเพื่อรับรองความปลอดภัยทางอาหารและสุขภาพของประชาชน ท่ามกลางความเสี่ยงครั้งใหญ่ที่เกิดจากการปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนนิวเคลียร์
เซี่ยชี้ว่าคำสั่งห้ามดังกล่าวจะมีผลต่อการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางทะเลจาก 10 เมืองหรือจังหวัดของญี่ปุ่น เช่น โตเกียว ฟุกุชิมะ ชิบะ โทจิงิ อิบารากิ กุมมะ มิยางิ นีงาตะ นากาโนะ และไซตามะ โดยครอบคลุมอาหารทะเลสด อาหารทะเลแช่แข็ง อาหารทะเลแช่เย็น อาหารทะเลแห้ง หรืออาหารทะเลแปรรูปทั้งหมด ตลอดจนเกลือทะเลและสาหร่ายทะเล
ขณะเดียวกัน ข้อจำกัดการนำเข้าอาหารบางชนิดจากฟุกุชิมะ ชิบะ โทจิงิ อิบารากิ และกุมมะในปัจจุบันจะยังคงมีผลบังคับใช้
จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่าการตัดสินใจปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนนิวเคลียร์ของรัฐบาลญี่ปุ่น โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางอาหาร ตลอดจนมลพิษและความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่ไม่อาจย้อนคืนกลับมาได้ ถือเป็นการกระทำที่ “ก่อปัญหาแก่ผู้อื่นอย่างขาดความรับผิดชอบ”
“ความปลอดภัยทางอาหารและสุขภาพของประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาลฮ่องกง” ลีกล่าว
อนึ่ง เมื่อวันอังคาร (22 ส.ค.) รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศการตัดสินใจเริ่มปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนนิวเคลียร์จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในวันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) แม้จะมีความกังวลของสาธารณชนและการต่อต้านอย่างรุนแรงจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ที่มา/ภาพ สำนักข่าวซินหัว