กระแสทัศนคติ หรือปรากฏการณ์สังคมที่จีนเรียกขานกันว่า “นอนราบ” (躺平) ได้ขยายวงจากแวดวงอาชีพการงานและการศึกษาไปยังภาคการท่องเที่ยวด้วยแล้ว
ในไม่กี่ปีมานี้ กลุ่มหนุ่มสาวจำนวนมากในจีนมีทัศนคติการใช้ชีวิตที่เรียกว่า “นอนราบ” หมายถึงการหันหลังให้การงานกิจกรรมต่างๆ และอยู่เฉยๆ หรือใช้ชีวิตแบบเชื่องช้ากัน (สโลว์ไลฟ์) ปรากฏการณ์นี้เป็นผลพวงมาจากการแข่งขันที่สูงมากในแวดวงอาชีพการทำงานและการศึกษา หนุ่มสาววัยทำงานจำนวนมากต้องทำงานหนักเป็น “หนูถีบจักร” แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเสียที หรือไปถึงเป้าหมายที่คาดหวังได้ง่ายๆ กลับย่ำอยู่กับที่จนคนเหล่านี้เหนื่อยล้าสุดทนทาน
ล่าสุด กระแสทัศนคติ “นอนราบ” ในจีนได้แผ่ลามไปยังภาคการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ กลุ่มคนหนุ่มสาวหันมาเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนช่วงวันหยุดโดยไม่มีการกำหนดโปรแกรมเที่ยวที่ไหน หรือเป้าหมายปลายทางที่แน่นอน พวกเขาเพียงต้องการไปพักผ่อนแบบ “นอนราบ” เท่านั้น
รายงานการสำรวจ “กระแสการเดินทางช่วงวันหยุดวันแรงงาน” (Labour Day Holiday Travel Trend Report) ที่แพลตฟอร์มเดินทางท่องเที่ยวออนไลน์ “ชี่ว์หน่า” (Qunar) และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย “เสี่ยวหงซู” (Xiaohongshu) ร่วมกันจัดทำ และเปิดเผยผลการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ ระบุว่า “การท่องเที่ยวแบบนอนราบในวันหยุด” ติดอันดับเทรนด์การท่องเที่ยวยอดนิยมสิบอันดับของปี 2023 ขณะที่จำนวนการสืบค้นทางออนไลน์เกี่ยวกับประสบการณ์ “ท่องเที่ยวนอนราบ” เพิ่มขึ้น 6 เท่าตัว
สำหรับเทรนด์การท่องเที่ยวอื่นๆ ที่รายงานการสำรวจได้แจกแจง เช่น การเที่ยววัดเพื่อไปจุดธูปไหว้เทพเซียนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนหนุ่มสาว การเข้าร่วมเทศกาลดนตรีและชมนิทรรศการศิลปะ การเที่ยวสวนสัตว์แบบที่ได้เข้าไปใกล้ชิดกับสัตว์ การเที่ยวกินเมนูเด็ดที่เลื่องลือ การท่องโลกกว้างเที่ยวต่างแดนไปสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น การเดินทางท่องเที่ยวไปตามหมู่บ้านชนบทชมทิวทัศน์ธรรมชาติ และวิถีชีวิตที่สงบเรียบง่าย
อีกเทรนด์มาแรงที่จีนเรียกว่า “การท่องเที่ยวสไตล์คอมมานโด” (SWAT-style travel) คือ ตะลุยเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ให้ได้มากที่สุดในเวลาอันจำกัด หรือ “การเที่ยวแบบล้างแค้น” นั่นเอง ยกตัวอย่างในต้นปีนี้ นักศึกษาจีนวัย 22 ปี จากมณฑลหูหนันทางตอนกลางของจีน ทำเวลาไปชมเขตทัศนียภาพถึง 20 จุดภายใน 48 ชั่วโมงในขณะไปเที่ยวที่เมืองกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกว่างตงทางภาคใต้จีน
ส่วนเทรนด์การท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ล่าสุดที่ตรงกันข้ามกันนี้ คือ “การเดินทางไปนอนราบ” หรือเพียงแค่เปลี่ยนที่นอนเท่านั้น
กรณีตัวอย่าง นักท่องเที่ยวนอนราบที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ผู้ใช้นามแฝง @Luocigaoqianxiaoni ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีน ว่าเธอลาออกจากงานและท่องเที่ยวไปตามเมืองต่างๆ ในจีน ไปพักตามโรงแรมห้าดาว ซึ่งนอกจากได้ความพึงพอใจจากบริการระดับท็อปของโรงแรม ที่สำคัญที่สุดของการเดินทางไปนอนราบคือ สร้างความสุขและผ่อนคลาย
ชาวจีนวัย 24 ปี อีกคนที่ใช้นามแฝงว่า ถู่โต้ว (Tudou) เธอได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบ “นอนราบ” ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด นั่นคือ การนอนราบในสวนสาธารณะต่างๆ ในนครเซินเจิ้น มณฑลกว่างตง
เธอบอกว่าการได้นอนราบบนพื้นดินในสวนสาธารณะต่างๆ ทำให้ “รู้สึกดีแบบธรรมชาติ” ช่วยชำระล้างจิตวิญญาณ และการท่องเที่ยวแบบนี้ “ก็ไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อความสุข”