จีนเคลื่อนไหวสกัดเงินทุนไหลออกนอกประเทศ ผู้บริหารหญิงของบริษัทในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งช่วยเหลือครอบครัวชาวจีนผู้มีอันจะกิน ขนเงินไปลงทุนในสหรัฐฯ อาจอยู่ในกลุ่มบุคคลที่ถูกตำรวจจีนจับกุมตัวฐานต้องสงสัยค้าเงินตราต่างประเทศผิดกฎหมาย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วปรากฏข่าวซึ่งถูกต่างชาติจับตามอง โดยจากรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ตำรวจนครเซี่ยงไฮ้มีการจับกุมบุคคล 5 คน เพื่อสอบสวนการค้าเงินตราต่างประเทศผิดกฎหมายเป็นเงินจำนวนราว 100 ล้านหยวน (ราว 486 ล้านบาท) โดยมีการทำธุรกรรมกับร้านแลกเงินใต้ดิน และผู้ต้องหาหนึ่งในนี้เป็นหญิงแซ่เหอ วัย 54 ปี ซึ่งเปิดบริษัทให้บริการเกี่ยวกับการอพยพเข้าเมือง อย่างไรก็ตาม ตำรวจเซี่ยงไฮ้มิได้ระบุชื่อของเธอ หรือชื่อบริษัท
โลกโซเชียลร่ำลือกันว่า หญิงผู้นั้นคือเหอ เม่ย ผู้บริหารบริษัทด้านการอพยพเข้าเมืองในเซี่ยงไฮ้ และต่อมาสื่อของทางการจีนอย่างน้อย 2 สำนักมีการรายงานข่าวโดยอ้างข่าวลือในโลกโซเชียลนี้
เหอ เม่ย หรือลินดา เหอ เป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอของบริษัทไหวเหลียน โอเวอร์ซีส์ คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (Wailian Overseas Consulting Group Inc.) ในนครเซี่ยงไฮ้ บริษัทให้บริการช่วยเหลือครอบครัวชาวจีนฐานะร่ำรวยในการทำวีซ่าเข้าประเทศตะวันตก หาสถานศึกษาระดับชั้นนำในต่างประเทศให้บุตรหลาน และอำนวยความสะดวกในการนำเงินไปลงทุนในต่างแดน จากข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัท
ข่าวการจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลจีนมีการเคลื่อนไหวเพื่อป้องกันเงินทุนไหลออกนอกประเทศ ในขณะที่จีนกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวตามเป้าหมาย หลังจากยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์และเปิดประเทศเมื่อปลายปี 2565 โดยข้อจำกัดในการอนุญาตให้พลเมืองจีนสามารถแลกเงินหยวนเป็นสกุลเงินต่างประเทศได้ไม่เกิน 5 หมื่นดอลลาร์ต่อปี (1 ล้าน 7 แสน 7 หมื่นบาท) ทำให้ชาวจีนฐานะร่ำรวยไม่สามารถขนเงินไปต่างประเทศได้
อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดกันว่า เงินทุนจะไหลออกจากจีนเร็วขึ้น เมื่อการเดินทางไปต่างประเทศของชาวจีนกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยสถาบันการเงินนาติซิส (Natixis) ของฝรั่งเศส คาดว่า เงินทุนจะไหลออกมากถึง 1 แสน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 5 ล้าน 3 แสน 1 หมื่นล้านบาท) ในปี 2566
การไหลออกของเงินทุนเช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งกำลังก้าวเข้าสู่ภาวะเงินฝืด จนกระทั่งธนาคารกลางของจีนต้องประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเหนือความคาดหมายเมื่อวันอังคาร (15 ส.ค.) ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือนเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
บริษัทไหวเหลียนอำนวยความสะดวกให้คนรวยชาวจีน ซึ่งมองไม่เห็นโอกาสทางเศรษฐกิจและไม่พึงพอใจสภาพการเมืองสังคมในประเทศ จึงหาทางขนเงินเพื่อย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างแดน บริษัทรายนี้ทำตัวเป็นท่อส่งเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเว็บไซต์ของบริษัทอวดอ้างความเชี่ยวชาญในการอำนวยความสะดวกการขอวีซ่านักลงทุน ให้ชาวจีนฐานะร่ำรวย ซึ่งอัดฉีดเงินจำนวน 5 แสน-1 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้โครงการในสหรัฐฯ
สำหรับลินดา เหอนั้น ยังทำงานด้านการกุศลและบริจาคเงินให้วิทยาลัยครูของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เคยร่วมเป็นสปอนเซอร์กับคาร์เนกีฮอลล์ จัดทัวร์เมืองจีนให้วงดุริงยางค์เยาวชนแห่งชาติสหรัฐฯ เมื่อปี 2558 และยังเป็นผู้อำนวยการบริหารของศูนย์จีนและโลกาภิวัตน์ (Center for China and Globalization) ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองในกรุงปักกิ่งอีกด้วย
เซี่ยงไฮ้ถูกล็อกดาวน์จากสถานการณ์โควิด-19 นานที่สุดเมืองหนึ่งในจีน และนครศูนย์กลางการเงินแห่งนี้มีเศรษฐีมั่งคั่งที่สุดในจีนจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่
เจี่ยฟังเดลี หนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนสาขาเซี่ยงไฮ้ ประกาศกวาดล้างการโยกย้ายเงินตราอย่างผิดกฎหมาย โดยยืนยันว่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศควรทำผ่านช่องทางที่รัฐกำหนดเท่านั้น