จีนแผ่นดินใหญ่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 491 คนในเดือน ก.ค. เพิ่ม 4 เท่าจากเดือน มิ.ย.
จากการยืนยันของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของจีนเมื่อวันพุธ (9 ส.ค.) พบผู้ป่วยรายใหม่ใน 23 มณฑล โดยพื้นที่ที่พบผู้ป่วยมากที่สุด 115 คน คือ มณฑลกวางตุ้ง หรือกว่างตงทางภาคใต้ รองลงมาได้แก่กรุงปักกิ่ง จำนวน 81 คน และอันดับที่ 3 มณฑลเสฉวน จำนวน 49 คน
จากการตรวจสอบทางระบาดวิทยา ผู้ป่วยรายใหม่เหล่านี้เป็นเพศชายทั้งหมด ซึ่งร้อยละ 96.3 ติดเชื้อฝีดาษลิงจากการมีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกัน ขณะที่การแพร่เชื้อจากการสัมผัสมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไข้ เป็นผื่น และต่อมน้ำเหลืองบวม ซึ่งเป็นอาการของโรคฝีดาษลิงโดยทั่วไป อย่างไรก็ตามอาการไม่รุนแรงและไม่มีใครเสียชีวิต
นอกจากนั้น ผู้ป่วยราวร้อยละ 90 ทราบว่าตนเองติดเชื้อหลังจากมาพบแพทย์ อีกร้อยละ 6.5 เป็นผู้มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ตามหาตัวจนพบ ส่วนผู้ป่วยที่เหลือถูกตรวจพบเชื้อจากการคัดกรอง
สาเหตุที่จำนวนผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากในเดือน มิ.ย.นั้น ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า เนื่องจากโรคมีการแพร่ระบาดอย่างลึกลับ โดยผู้ป่วยร้อยละ 80 ไม่ทราบแหล่งที่มาของเชื้อชัดเจน การควบคุมป้องกันโรคจึงทำได้ลำบาก
ซีดีซีจีนเตือนว่า ยังคงมีความเสี่ยงพบผู้ป่วยฝีดาษลิง ซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลการเฝ้าติดตามพบว่า โรคฝีดาษลิงที่ตรวจพบในจีนทั้งหมดเป็นสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก ซึ่งมีระดับความรุนแรงของโรคไม่มากนัก และส่วนใหญ่พบแพร่หลายในแถบทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย
สำหรับการควบคุมป้องกันนั้น ทางการจะรณรงค์ให้บริการข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโรคฝีดาษลิงทั้งในโลกโซเชียลและการติดป้ายประกาศตามสถานที่ โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มชายรักชาย ซึ่งมักนิยมมาเที่ยวบาร์ คลับ และสปา เพื่อสร้างการตระหนักรู้และการป้องกันตัวต่อไป
ที่มา : โกลบอลไทมส์