รับใบสั่งใครมา บทบรรณาธิการของ “โกลบอลไทมส์” สื่อทางการจีนจับพิรุธรัฐมนตรีกลาโหมอิตาลีออกมาตำหนิโครงการริเริ่มสายแถบและเส้นทาง หรือเบลต์แอนด์โรด (BRI) ของจีน
ท่ามกลางการจับตามองกันว่า รัฐบาลอิตาลีอาจฉีกเอ็มโอยูโครงการ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับจีนดังกล่าวภายในสิ้นปี 2566 นายกุยโด โครเซตโต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิตาลีให้สัมภาษณ์สื่ออิตาลีเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยโบ้ยความผิดให้รัฐบาลแดนมะกะโรนีชุดที่แล้วว่า ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการริเริ่มนี้อย่างขาดการวางแผน ซึ่งเป็นเรื่องที่แย่มาก และปัญหาตอนนี้คือ อิตาลีจะถอยออกมาโดยไม่กระทบความสัมพันธ์กับปักกิ่งได้อย่างไร
โกลบอลไทมส์ระบุในบทบรรณาธิการว่า นี่เป็นคำพูดเกี่ยวกับโครงการริเริ่มเบลต์แอนด์โรดที่แรงสุดของคนในรัฐบาลอิตาลีชุดปัจจุบัน และเป็นเรื่องพิลึก ที่คนเป็นรัฐมนตรีกลาโหมออกมาประเมินความสำเร็จของโครงการ ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ควรให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านเศรษฐกิจการค้าของอิตาลีจึงจะเหมาะสมกว่าไหม
นายโครเซตโต ระบุว่า การเข้าร่วม BRI ทำให้จีนส่งออกสินค้ามาอิตาลีได้มากมายกว่าเดิม แต่การส่งออกของอิตาลีไปจีนแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
โกลบอลไทมส์ชี้ว่า สิ่งที่นายโครเซตโต พูดไม่เป็นความจริง โดยอ้างข้อมูลของทางการจีนว่า ในช่วงกว่า 4 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าจีน-อิตาลีเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่อยู่หลายครั้ง โดยในปี 2565 มีมูลค่าการค้าสูงเกือบ 78,000 ล้านดอลลาร์ การส่งออกของอิตาลีมาจีนระหว่างปี 2562-2565 เพิ่มขึ้น 42% และในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 58%
ทั้งนี้ จีนเปิดตัวโครงการ BRI เมื่อปี 2556 เป็นอภิมหาโครงการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมการค้าระหว่างจีนกับกว่า 100 ชาติทั่วยุโรปและเอเชีย โดยศูนย์ยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษา (CSIS) ประเมินว่า จีนมีการลงทุนในโครงการนี้ราว 1 ล้านล้าน-8 ล้านล้านดอลลาร์ อิตาลีเป็นชาติเดียวในจี7 ที่เข้าร่วมในปี 2562
โกลบอลไทมส์สงสัยว่า สหรัฐฯ อยู่เบื้องหลังคำพูดดุเดือดของรัฐมนตรีกลาโหมมะกะโรนี หากพิจารณาจากช่วงเวลา ซึ่งเป็นการกล่าวหลังจากนายกรัฐมนตรีหญิง จอร์เจีย เมโลนี ของอิตาลี เพิ่งเสร็จสิ้นการเยือนสหรัฐฯ โดยหลังจากพบกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน เมโลนีให้สัมภาษณ์แบ่งรับแบ่งสู้ว่า จะตัดสินใจเรื่องถอนตัวจาก BRI ก่อนเดือน ธ.ค. และพร้อมเปิดการเจรจาอย่างสร้างสรรค์กับปักกิ่ง โดยที่เธอเองยินดีเดินทางไปเยือนจีนด้วย
ในมุมมองของโกลบอลไทมส์ การคาดเดากันว่า เมโลนีอาจถอนตัวจาก BRI เพื่อแสดงความภักดีต่อสหรัฐฯ นั้นเป็นการคาดเดาที่ผิด แต่คำพูดของนายกรัฐมนตรีอิตาลีแสดงให้เห็นว่า อิตาลีกำลังอยู่ในภาวะรักพี่เสียดายน้อง กล่าวคือต้องการให้สหรัฐฯยอมรับรัฐบาลขวาจัดของเธอ ซึ่งเพิ่งเข้าบริหารประเทศเมื่อปีที่แล้ว แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อยากละทิ้งความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับจีน
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้โกลบอลไทมส์เชื่อว่า สหรัฐฯ คือผู้ทำให้อิตาลีลำบากใจ นั่นก็คือนับตั้งแต่อิตาลีเข้าร่วม BRI สหรัฐฯ ออกมากดดันตลอด โดยนิวยอร์กไทมส์ถึงกับตราหน้าอิตาลีว่าเป็น “ม้าเมืองทรอยส์” ของโลกตะวันตก ที่เปิดทางให้จีนแผ่ขยายอิทธิพลด้านเศรษฐกิจเข้ามาในใจกลางยุโรป และต่อไปอาจถึงขั้นขยายอิทธิพลด้านการเมืองการทหารเข้ามาก็เป็นได้
อ้างอิงข้อมูลจาก
- “Don't let quitting BRI become Italy's regret: Global Times editorial” ในโกลบอลไทมส์
- “Italy just slammed China's trillion-dollar Belt and Road Initiative, saying it was an 'atrocious' decision to join and that it's barely benefited from the deal” ในอินไซเดอร์