โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล
เมื่อไม่นานมานี้ มีการเปิดเผยจำนวนไรเดอร์ส่งอาหารของ 2 แพลตฟอร์มยักษ์ของจีนคือ เหมยถวน (Meituan) และ เอ้อเลอมะ (E leme) ที่มีจำนวนทั้งหมดรวมกันมากกว่า 7.38 ล้านคนทั่วประเทศ! ในหัวข้อข่าวจีนใช้คำบรรยายประกอบว่า 人满为患 อ่านว่า เหรินหม่านเหวยฮ่วน แปลเป็นไทยหมายถึง “คนเยอะคนแน่นกันจนจะเป็นอัมพาต” โดยเฉพาะในกว่างโจวเมืองเดียวได้จำนวนไรเดอร์รับสมัครไปเต็มแม็กจนไม่เหลือตำแหน่งว่าง!
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ อาชีพไรเดอร์กลายเป็นอาชีพใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะช่วงการระบาดของโควิด-19 จีนมีการคุมเข้มโรคระบาดเป็นเวลายาวนานทำให้จำนวนของไรเดอร์จีนดีดตัวมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่อาชีพไรเดอร์กลายเป็นที่นิยมมีเหตุผลหลักดังนี้คือ รายได้ดีในแต่ละเดือนสามารถมีรายรับเฉลี่ย 7,000-8,000 หยวนต่อเดือน หรือประมาณ 35,000-40,000 บาทต่อเดือน อีกทั้งเป็นอาชีพที่อายุมากแล้วก็ยังทำได้ขอแค่สุขภาพแข็งแรง ไม่มีข้อจำกัดด้านการศึกษา มีความเป็นอิสระจัดการกับเวลาการทำงานของตัวเองได้ เป็นต้น หากว่าขยันๆ หน่อย รับออเดอร์เยอะหน่อย รายรับต่อเดือนสามารถแตะ 10,000 หยวน หรือประมาณ 50,000 บาทได้
อาชีพไรเดอร์กลายเป็นอาชีพยอดฮิตของคนจีนที่อยู่ในช่วงว่างหรือกำลังหางาน โดยส่วนใหญ่มองว่า “เป็นอาชีพอิสระทางเลือก ออกมาวิ่งมีออเดอร์ก็ยังประกันการมีรายได้ ไม่ว่าจะได้มากหรือได้น้อย” ไรเดอร์จีนในปัจจุบันมาจากคนหลากหลายอาชีพทั้งคนจากชนบทที่เข้ามาหางานในเมือง คนว่างงาน คนที่เพิ่งตกงาน คนที่ทำธุรกิจล้มเหลว คนที่หารายได้พิเศษ เป็นต้น คนจีนหลายคนที่ทำงานประจำอยู่ชอบตัดพ้อกันว่า “ถ้าจะหมดหนทางก็ไปเป็นไรเดอร์” ทำให้ดูเหมือนว่าอาชีพไรเดอร์เป็นอาชีพแรกๆ ที่คนนึกถึงยามที่ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไรดี หรือยามที่ทุกข์ยาก
อย่างเช่น นายจางซิน วัย 28 ปี ผู้เคยเปิดร้านอาหารที่บ้านเกิดมณฑลซานตง แต่ต้องปิดตัวลงช่วงโควิด หมดเงินหมดหนทาง ก็ย้ายไปเมืองกว่างโจว และเริ่มอาชีพไรเดอร์ ตัวเขาเองช่วงก่อนโควิด-19 มีรายรับเดือนละ 30,000 กว่าหยวน หรือประมาณ 150,000 บาท แต่ช่วงโควิด-19 สามปีร้านอาหารของเขาขาดทุนต่อเนื่องจนติดลบไปกว่า 200,000 หยวน หรือประมาณ 1 ล้านบาท ที่เขาเลือกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่กว่างโจว เพราะอับอายคนที่บ้านเกิดที่ร้านอาหารของตัวเองไปไม่รอด โดยการมาเป็นไรเดอร์ที่กว่างโจวของนายจางซิน ในครั้งนี้มีเป้าหมายว่าต้องการหาเงินทยอยใช้หนี้และเมื่อใช้หนี้หมดเมื่อไหร่ก็จะกลับไปบ้านเกิดที่ซานตงอีกครั้งหนึ่ง
ชีวิตไรเดอร์ของนายจางซิน ที่กว่างโจวไม่ได้สุขสบายอย่างที่คิด ห้องเช่าที่เขาอยู่รวมกับไรเดอร์คนอื่นๆ ขนาดห้อง 120 ตารางเมตรแต่แออัดกันอยู่ 30 คน ไม่มีห้องนั่งเล่น ไม่มีตู้เสื้อผ้า เป็นเตียงนอน 2 ชั้น อีกคนนอนข้างล่างอีกคนนอนข้างบน ที่นายจางซิน ตัดสินใจเลือกทำอาชีพไรเดอร์เพราะเห็นโฆษณารับสมัครออนไลน์ ซึ่งระบุว่า “รายได้ต่อเดือนมากกว่า 10,000 หยวน หรือ 50,000 บาท” ตัวเขาเองตอนแรกยังไม่เชื่อในคำโฆษณาและได้ลองไปสอบถามพวกไรเดอร์ 2-3 คนที่วิ่งรับงานอยู่ทราบว่าไรเดอร์แต่ละคนมีรายได้ค่อนข้างดี ในการส่งแต่ละออเดอร์รายรับของไรเดอร์จะอยู่ที่ออเดอร์ละ 5-8 หยวน หรือประมาณ 25-40 บาท และหากว่าวันหนึ่งสามารถส่งได้มากกว่า 60 ออเดอร์ จะมีรายรับต่อเดือนมากกว่า 10,000 หยวน หรือประมาณ 50,000 บาท ไรเดอร์บางคนที่คุ้นเคยเส้นทางทำเวลาได้ไว อาจจะสามารถส่งได้มากถึงวันละ 100 ออเดอร์ จะมีรายรับที่มากขึ้นไปอีก ตัวนายจางซิน เองเห็นว่าตัวเองยังแข็งแรงน่าจะสู้ไหวและลองดูสักตั้ง แต่หลังจากที่ได้มาเป็นไรเดอร์จริงๆ แล้วนายจางซิน พบว่าไม่ง่ายและต้องมีเทคนิคทักษะเฉพาะหลายอย่างเลยทีเดียว
คนมากมายที่เลือกมาเป็นไรเดอร์ล้วนมีความหวังว่าจะมีโอกาสหาเงินได้มาก ซึ่งหากว่าเป็นช่วงโควิด-19 ไรเดอร์จะเนื้อหอมอย่างมาก หลายแพลตฟอร์มต้องรับสมัครเป็นจำนวนมาก แต่ในปีนี้มีจำนวนไรเดอร์เพิ่มขึ้นมากอย่างรวดเร็วจนอยู่ในระดับอิ่มตัว เมื่อจำนวนไรเดอร์ที่เพิ่มขึ้นจำนวนออเดอร์ที่เข้ามาต้องถูกถัวเฉลี่ยออกไปเยอะขึ้น รายได้ต้องถัวเฉลี่ยออกไปเช่นกัน
ในเดือน ก.พ.ปีนี้ แพลตฟอร์มเหมยถวนได้ประกาศรับไรเดอร์ใหม่ 5 แสนตำแหน่งและก็เต็มอย่างรวดเร็ว อีกแพลตฟอร์มหนึ่งเอ้อเลอมะก็เกิดปรากฏการณ์เดียวกันคือไรเดอร์ล้น มีไรเดอร์ของเอ้อเลอมะได้เปิดเผยว่าในเขตที่เขารับผิดชอบอยู่ปีที่แล้วมีไรเดอร์ประจำอยู่ 30 กว่าคน แต่มาคราวนี้ 90 กว่าคน คนที่ประกอบอาชีพเป็นไรเดอร์มา 6-7 ปี ก็ประสบกับปัญหาไรเดอร์เยอะ แย่งออเดอร์กัน รายได้ลดลง ทำให้เวลาการทำงานออกวิ่งในแต่ละครั้งต้องยาวนานขึ้น อย่างเช่น นายหม่า เป็นไรเดอร์มา 7 ปีแล้ว ช่วงก่อนหน้าเขาวิ่งส่งอาหาร 35-40 ออเดอร์ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ตอนเย็นสามารถมีเวลาไปเดินออกกำลังหรือทำกิจกรรมสันทนาการที่ตัวเองชอบได้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้น บางครั้งเขาต้องรอถึงห้าทุ่มเที่ยงคืนถึงจะสามารถส่งออเดอร์ได้ตามเป้ารายวันได้
ในปีนี้มีไรเดอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาดสูงถึง 970,000 คน ทำให้กฎเกณฑ์เพดานยอดส่งออเดอร์ของแพลตฟอร์มต่างๆ สูงขึ้นไปอีก เช่น หากเดือนหนึ่งสามารถส่งออเดอร์ได้มากกว่า 500 ออเดอร์ขึ้นไป รายได้ที่ไรเดอร์จะได้รับจาก 7 หยวน (35 บาท)/ออเดอร์ จะปรับขึ้นไปเป็น 8 หยวน (หรือราว 40 บาท)/ออเดอร์ แต่ตอนนี้ต้องส่งได้ 700 ออเดอร์ต่อเดือนขึ้นไปถึงจะได้ปรับขึ้นรายรับค่าส่ง อีกทั้งการบริหารจัดการไรเดอร์ของบริษัทต่างๆ ก็มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ทำให้ไรเดอร์เก่าแก่ที่ทำงานมานานสู้ไม่ไหว ก็ถอยและลาออกไปไม่น้อย
แพลตฟอร์มเหมยถวนได้เปิดเผยจำนวนไรเดอร์ของแพลตฟอร์มในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2018 เหมยถวนมีจำนวนไรเดอร์ 2.7 ล้านคนทั่วประเทศ เพิ่มขึ้น 22.73% จากปีก่อน และปี 2019 เหมยถวนมีจำนวนไรเดอร์ 3.99 ล้านคนทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นกว่า 47.78%! ต่อมา ในปี 2020 ช่วงของการระบาดโควิด-19 และมีการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นในจีน เหมยถวนมีจำนวนไรเดอร์เพิ่มขึ้นเป็น 4.7 ล้านคนทั่วประเทศ เพิ่มขึ้น 17.79% และในปี 2021 อัตราการเพิ่มขึ่นยังมีต่อเนื่องแต่อัตราเร่งลดลง ในปีนี้เหมยถวนมีจำนวนไรเดอร์ 5.27 ล้านคนทั่วประเทศ เพิ่มขึ้น 12.13% ต่อมาปี 2022 เหมยถวนมีจำนวนไรเดอร์ 6.24 ล้านคนทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นกว่า 18.41% และในปีนี้ 2023 ยังมีจำนวนไรเดอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกแน่นอน
จีนหลังโควิด-19 เศรษฐกิจเหมือนจะถดถอยมากขึ้นกว่าช่วงปิดประเทศ การลงทุนหดตัว การส่งออกและการค้าต่างประเทศลดลง แถมมีอุปสรรคมากขึ้นจากข้อพิพาทกับทางสหรัฐฯ และยุโรป การบริโภคภายในประเทศซบเซา บริษัทและรัฐวิสาหกิจมีการตัดเงินเดือนสวัสดิการและปลดพนักงาน การว่างงานเพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้งานอิสระพวกไรเดอร์ได้รับความนิยมมากขึ้น กลุ่มคนที่ว่างงานยังไม่รู้จะไปทำอะไรมาขับไรเดอร์ กลุ่มคนที่อยากหารายได้พิเศษมีอยู่ไม่น้อยก็หันมาเป็นไรเดอร์ช่วงที่ตัวเองว่าง และสถานการณ์โอเวอร์ซัปพลายไม่ใช่มีแต่ไรเดอร์ส่งอาหารเท่านั้น พวกรถรับจ้างบนแพลตฟอร์มอย่าง Didi ยังมีแนวโน้มว่าจะโอเวอร์ซัปพลายอยู่มากเช่นกัน เรื่องนี้ทำให้เรารู้ว่าเศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวไม่ง่าย แต่ประชาชนนั้นยากกว่า