กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) จัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ อำลา พ.อ.เฝิงหยางเฮ่อ (冯旸赫)คนหนุ่มไฟแรง หนึ่งในผู้บุกเบิกนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) มาใช้ในการเล่นสงครามจำลอง หรือวอร์เกม
จากข้อมูลประวัติโดยย่อซึ่งเผยแพร่ออนไลน์ ผู้พันเฝิง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างเดินทางเพื่อมาทำ “ภารกิจสำคัญ” เป็นการจากไปด้วยวัยเพียง 38 ปี แต่ในข้อมูลมิได้ระบุสาเหตุการตาย
ด้านคณะกรรมการจัดงานศพแถลงว่า ร่างของเขาฝังอยู่ในสุสานปฏิวัติปาเป่าซาน ชานกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นสุสานสำหรับบุคคลสำคัญของจีนเมื่อวันเสาร์ (15 ก.ค.) ในฐานะทหารผู้พลีชีพขณะปฏิบัติหน้าที่
นายทหารชั้นยศระดับกลางได้รับการยกย่องถึงขนาดนี้นับเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก ขณะที่มีการถกเถียงเซ็งแซ่ในโลกโซเชียลเกี่ยวกับการตายอย่างมีปริศนา
แต่ในความเห็นของนักวิจัยสถาบันคลังสมองอย่างนายโจว เฉินหมิง แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการทหารหยวนหวังในกรุงปักกิ่งนั้น น่าจะเป็นเพราะผู้พันเฝิง มีคุณูปการต่อกองทัพนั่นเอง
นายทหารผู้นี้เป็นบุคคลหนึ่งที่ทำงานบุกเบิกอยู่เบื้องหลังในการนำซอฟต์แวร์เอไอมาใช้ในวอร์เกม จนกองทัพจีนนำเทคโนโลยีเอไอมาประยุกต์ใช้จำลองการทำสงครามกันอย่างกว้างขวาง
“เขาเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับกองทัพปลดแอกประชาชนจีน” นายโจว กล่าว
เฝิงเป็นรองศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (เอ็นยูดีที) ในเมืองฉางซา มณฑลหูหนัน เขานำทีมในการพัฒนาโปรแกรมเอไอ “วอร์ สกัล วัน” (War Skull I) และ “วอร์ สกัล ทู” (War Skull II) จนได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันการจำลองการรบของจีนในปี 2562 และ2564
เฝิงเกิดที่เมืองผิงเหลียง มณฑลกานซู ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ อายุเพียง 18 ปีก็ได้เข้าทำงานในเอ็นยูดีที เขาศึกษาด้านสถิติที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และด้านระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (high-performance computing) ที่มหาวิทยาลัยไอโอวาของสหรัฐฯ ใน “โครงการฝึกอบรมร่วม” ระหว่างปี 2554-2556 จากนั้นเดินทางกลับมาเอ็นยูดีที และศึกษาจนจบระดับปริญญาเอกในปี 2557
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เฝิงพิมพ์เผยแพร่รายงานกว่า 60 ฉบับ และรับผิดชอบโครงการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ระดับมณฑลและระดับประเทศกว่า 30 โครงการ
แต่ชีวิตของ “เพชรเม็ดงาม” ด้านเอไอช่างปลิดปลิวง่ายดาย
คนวงในกองทัพเล่าว่า ผู้พันเฝิงเสียชีวิตจากอุบัติหตุบนถนน โดยเขาถูกเรียกตัวมาทำภารกิจสำคัญ เฝิงรีบรุดเดินทางจากที่ทำงานในเมืองฉางซา มากรุงปักกิ่งด้วยเที่ยวบินกลางคืน
“เขาเรียกบริการรถแท็กซี่ผ่านแอปบนโทรศัพท์มือถือตามปกติ แต่โชคร้ายรถแท็กซี่ที่เขานั่งมาพุ่งชนกับรถบรรทุก คนขับรถคู่กรณีมีอาการเหนื่อยล้าจากการทำงานด้วยกันทั้งสองฝ่าย” คนวงในระบุ
โลกโซเชียลพากันสงสัยว่า เหตุใดจึงไม่มีการจัดหารถบริการให้นายทหารชั้นยศระดับกลาง ซึ่งมาปฏิบัติภารกิจสำคัญ
อย่างไรก็ดี ตามกฎระเบียบของพีแอลเอมีอยู่ว่า นายทหารระดับสูงชั้นยศตั้งแต่พลตรีขึ้นไปเท่านั้นจึงจะมีสิทธิได้รับบริการรถยนต์ส่วนบุคคลและมีผู้ช่วยส่วนตัวได้
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์