ในช่วงสงครามอินโดจีน สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดลูกปรายใน สปป.ลาว มากกว่า 270 ล้านลูก ระเบิดเหล่านี้ยังหลงเหลือมากกว่า 80 ล้านลูก กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนชาวลาวบาดเจ็บและเสียชีวิต ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานกว่า 50 ปีแล้วก็ตาม
สถานีโทรทัศน์ CCTV ของทางการจีนนำเสนอรายงานพิเศษจาก สปป.ลาว ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ ยังมีประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและบาดเจ็บจากระเบิดที่ตกค้างมาจากช่วงสงครามมากกว่า 20,000 คน โดยร้อยละ 40 เป็นเด็ก
เด็กหญิงวัย 4 ขวบคนนี้ต้องสูญเสียตาข้างขวาจากระเบิดเมื่อปีที่แล้ว หลังจากเธอไปเผาขยะที่ข้างบ้านของตัวเอง และจู่ๆ ระเบิดที่ตกค้างอยู่ใต้ดินก็ระเบิดขึ้น เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นที่หน้าบ้านของเธอเอง
หญิงสาวอีกคนหนึ่งสูญเสียสามีกับลูกไปจากเหตุระเบิดเช่นเดียวกัน เธอเป็นคนเดียวในครอบครัวที่รอดชีวิตมาได้ แต่เคราะห์กรรมที่ทหารต่างชาติทิ้งเอาไว้ ทำให้เธอประสบกับเหตุระเบิดครั้งที่ 2 ทำให้ครอบครัวใหม่ของเธอเสียชีวิตอีกครั้ง
ระเบิดลูกปรายที่สหรัฐฯ ทิ้งลงสู่ สปป.ลาวในช่วงสงครามอินโดจีนเมื่อกว่า 50 ปีก่อนมีมากกว่า 270 ล้านลูก และจนถึงทุกวันนี้ ระเบิดเหล่านี้ยังหลงเหลือมากกว่า 80 ล้านลูกกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศลาว
ระเบิดเหล่านี้ฝังอยู่ใต้ผืนดินที่ทุกวันนี้เป็นท้องไร่ท้องนา และทำให้ชาวบ้านที่ไม้รู้อิโหน่อิเหน่ต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ โดยผู้ที่รับเคราะห์กว่าร้อยละ 40 เป็นเด็ก จนหน่วยงานเก็บกู้ระเบิดของ สปป.ลาว ต้องทำการรณรงค์ผ่านเพลงที่มีเนื้อเพลงส่วนหนึ่งว่า
“เด็กเอ๋ยเด็กน้อย จะไปที่ไหน อย่าไปเล่นไกลๆ พ่อแม่เป็นห่วงเจ้า บนภูเขามีระเบิด ลูกเล็กเด็กน้อย อย่าออกไปเล่นไกล”
ระเบิดตกค้าง ขวางทางลาวหลุดพ้นความยากจน
สปป.ลาวมีพื้นที่ประเทศราว 240,000 ตารางกิโลเมตร แต่พื้นที่ราวร้อยละ 25 ของประเทศ หรือราว 60,000 ตารางกิโลเมตรยังมีระเบิดจากสมัยสงครามตกค้างอยู่ ทั้งๆ ที่พื้นดินของประเทศลาวมีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูก แต่ระเบิดที่ตกค้างทำให้พื้นที่จำนวนมากเป็น “พื้นที่อันตราย” ไม่สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่ ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความหวาดผวา เพราะทุกๆ เดือนมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจากระเบิด ไม่ว่าจะเป็นระหว่างการทำไร่ไถนา หรือหุงหาอาหาร
ระเบิดตกค้างมากกว่า 80 ล้านลูกเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของลาวมาจนถึงทุกวันนี้ ในช่วงที่มีการก่อสร้างทางรถไฟลาว-จีน ต้องมีการจัดตั้งหน่วยเก็บกู้ระเบิดเป็นการเฉพาะ ใช้เวลามากกว่า 3 ปีในการเคลียร์ระเบิดในพื้นที่เส้นทางรถไฟ แต่หากจะสำรวจและเก็บกู้ระเบิดที่ตกค้างทั่วประเทศลาวอาจต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 24 ปี หรืออาจจะยาวนานถึง 100 ปีจึงจะหมด
ระเบิดลูกปราย อาวุธต้องห้ามที่สหรัฐฯ มอบให้ยูเครน
ระเบิดลูกปราย หรือระเบิดพวง หรือ คลัสเตอร์บอมบ์ เป็นระเบิดชนิดที่ภายในระเบิดลูกใหญ่ลูกหนึ่งจะมีระเบิดลูกเล็กๆ หลายร้อยลูก เมื่อถูกทิ้งลงเป้าหมาย ระเบิดขนาดเล็กที่ถูกปล่อยออกมาจะกระจายตัวออกเป็นวงกว้าง ระเบิดเหล่านี้บางส่วนไม่ได้ระเบิดในทันที โดยระเบิดอาจฝังตัวอยู่ในดินได้เป็นสิบๆ ปี และก็ไม่รู้แน่ชัดว่ากระจายตัวไปอยู่ที่ไหนบ้าง
หลังจากนั้น ซึ่งอาจจะอีกหลายสิบปีต่อมา เมื่อมีคนมาเหยียบเข้า ระเบิดที่ฝังดินอยู่ก็จะระเบิดขึ้น ระเบิดชนิดนี้จึงเป็นอาวุธสังหารแบบไม่เลือกหน้า และได้สร้างความสูญเสียให้ประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่นานหลายสิบปีแม้ว่าสงครามได้สิ้นสุดลงแล้ว
รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมว่า จะมอบความช่วยเหลือทางทหารล็อตใหม่ให้ยูเครนเป็นมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ อาวุธล็อตใหม่ที่สหรัฐฯ จะมอบให้ยูเครนครั้งนี้รวมถึงระเบิดลูกปราย หรือคลัสเตอร์บอมบ์ ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้าม
รัฐบาล สปป.ลาว และกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ในฐานะประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากระเบิดลูกปราย ขอแสดงความเป็นห่วงที่อาวุธที่ "ไร้มนุษยธรรม" เช่นนี้จะถูกนำมาใช้อีกครั้ง.