เรื่องราวดรามาเกิดขึ้น เมื่อเด็กชายติดอยู่ภายในรถแท็กซี่ ทว่าพ่อแม่ซึ่งเป็นเจ้าของรถกลับไม่ยอมให้พลเมืองดีทุบกระจกรถ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ณ นครเฉิงตู มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) หลังผู้คนที่สัญจรไปมาพบรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนน โดยมีเด็กชายนอนหลับอยู่ภายในรถร้อนๆ ที่ไม่ได้ติดเครื่องและถูกล็อกไว้ เนื่องจากพ่อแม่ลืมกุญแจไว้ในรถ
รายงานระบุว่า เด็กชายหลับไปกว่า 1 ชั่วโมงแล้วและไม่มีการตอบสนอง หรือขยับเขยื้อนตัวแต่อย่างใด แม้ว่าพลเมืองดีจะช่วยกันส่งเสียง เคาะกระจก และเขย่ารถแล้วก็ตาม
ต่อมา ชายแซ่หลินซึ่งกำลังกินอาหารกับเพื่อนๆ ใกล้บริเวณนั้นได้เข้ามาช่วยเหลือ โดยนายหลิน กลัวว่าชีวิตของเด็กชายจะตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากขาดออกซิเจน จึงแนะนำให้รีบทุบกระจกรถ
แต่ไม่ว่าจะพูดสักแค่ไหน พ่อแม่ของเด็กชายก็ปฏิเสธ ไม่ยอมให้ทุบกระจกรถ พวกเขาให้เหตุผลว่า ไม่อยากเสียเงินค่าซ่อมกระจกและกำลังรอช่างทำกุญแจอยู่
นายหลิน จึงถามพวกเขาว่า "ชีวิต หรือ กระจกสำคัญกว่ากัน?" พร้อมเสริมว่าเขาจะเป็นคนรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดเอง
สุดท้าย นายหลิน จัดการทุบกระจกรถและอุ้มเด็กชายออกจากรถ นับว่าโชคดีที่พอออกจากรถ เด็กชายก็รู้สึกตัวทันทีและไม่มีอาการผิดปกติใดๆ
ภายหลังนายหลิน ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวลงบนโลกออนไลน์ ทว่าพ่อแม่ของเด็กชายได้ติดต่อเข้ามาและขอให้เขาลบคลิปวิดีโอ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นายหลิน รู้สึกผิดหวังและช้ำใจ ที่ตัวเองตั้งใจเข้าไปช่วยแท้ๆ แต่กลับถูกพ่อแม่ของเด็กชายตำหนิ
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้าข้างนายหลิน พร้อมตำหนิพ่อแม่ของเด็กชายว่า ขาดความรับผิดชอบ ทั้งยังแนะนำนายหลินให้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ หากพบเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคต เพราะเขาจะได้ไม่ต้องถูกตำหนิ รวมทั้งไม่ต้องจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหาย
ที่มา: 男孩與鑰匙都被鎖車內 父母怕修車不願破窗救人 (CTWANT)
'Life or glass more important?' Passer-by in China asks after parents blame him for smashing car window to rescue son (AsiaOne)