xs
xsm
sm
md
lg

New China Insights : เมื่อร้านค้าออนไลน์จีนเริ่มใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาแทนแรงงานมนุษย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นางแบบ AI ของร้านเสื้อผ้า “LumiWink”  (ที่มา Bilibili)
ร่มฉัตร จันทรานุกูล


ในบทความนี้ผู้เขียนอยากจะมาเล่าสู่กันฟังถึงเรื่องของการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ของจีนที่เริ่มรุกคืบเข้าไปในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) และดูเหมือนว่าจะมีการขยายการใช้ AI ในธุรกิจออนไลน์อย่างรวดเร็ว ซึ่งการพัฒนาที่รวดเร็วมีทั้งโอกาสและความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้น ด้านโอกาสเพื่อธุรกิจคือการได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้นเพื่อลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพ ลดความผิดพลาด ส่วนความท้าทายคือในอนาคตอาจจะมีตำแหน่งงานจำนวนมากที่หายไปอย่างรวดเร็วเพราะใช้ AI เข้ามาทำงานแทนมนุษย์ได้ วันชอปปิ้ง 618 ในปีนี้ที่เพิ่งผ่านมา (วันที่ 18 มิ.ย.ของทุกปีคือเทศกาลชอปแหลก 618) ร้านค้าออนไลน์บางร้านได้นำ AI เข้ามาช่วยในด้านการออกแบบและขายสินค้า ประเด็นนี้ได้รับความสนใจจากทั้งสื่อของรัฐและโซเชียล

กล่าวกันว่า AI กำลังทำให้ภาคธุรกิจออนไลน์ของจีนเปลี่ยนไปอีกขั้นและมาเร็วกว่าที่คาด หลายคนยังปรับตัวกันไม่ทัน ชาวเน็ตจีนบางคนบอกว่า “ขณะที่หลายคนกำลังกังวลว่าเมื่อไหร่งานที่ตัวเองทำจะถูกหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่ แต่ยังไม่รู้ซะแล้วว่าตอนนี้มีคนใช้ AI เปิดร้านเถาเป่า (Taobao) กันแล้ว” ตัวอย่างของร้านค้าออนไลน์ AI ที่ประสบความสำเร็จในตอนนี้ เป็นร้านขายเสื้อผ้าบนเว็บเถาเป่ามีชื่อร้านว่า “LumiWink” ได้เริ่มเปิดร้านในเดือน เม.ย.ปีนี้ โดยทีมงานของร้านนี้มีเพียง 3 คนเท่านั้น ส่วน AI ที่ใช้หลักคือโปรแกรม ChatGPT และ Midjourney ร้านค้า“LumiWink” ใช้เวลาเพียง 2 อาทิตย์ในการลงทะเบียน ออกแบบสินค้า ผลิตสินค้าและเปิดหน้าร้าน หากว่าเป็นการเปิดร้านออนไลน์แบบดั้งเดิมต้องใช้ทีมงาน 10 กว่าคน และต้องใช้เวลานานร่วมเดือนกว่าจะเปิดร้านได้

ร้าน “LumiWink” ขายเสื้อผ้าที่ออกแบบด้วย AI ทั้งหมด และตั้งแต่เดือน เม.ย.จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. ร้าน “LumiWink” ขายเสื้อผ้าไปได้แล้ว 700 กว่าตัว สินค้าหลักคือเสื้อยืดและกระโปรง โดยเสื้อยืดแขนสั้นราคา 69 หยวน หรือประมาณ 350 บาท และกระโปรงราคา 89 หยวน หรือราคา 450 บาท ร้าน “LumiWink” ใช้ผ้าคุณภาพดีในการผลิตและขายได้ราคาถูกกว่าร้านระดับเดียวกันเพราะต้นทุนลดลงไปได้มาก

ตัวอย่าง AI เสมือนคนจริงไลฟ์สดขายของ (ที่มา Bilibili)
ร้าน “LumiWink” ใช้ AI เข้ามาช่วยทำงานตั้งแต่การเขียนคอนเทนต์ การออกแบบสินค้าและออกแบบรูปที่ใช้โฆษณา ส่วนนางแบบใช้นางแบบ AI ไม่ติดลิขสิทธิ์และไม่ต้องออกเงินจ้างนางแบบ ทีมงานของร้าน LumiWink เคยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “รูปภาพทั้งหมดในร้าน โปสเตอร์หรือแม้กระทั่งโลโก้ร้านล้วนสร้างโดย AI จากโปรแกรม Midjourney ส่วนการเขียนคำโฆษณา ตั้งชื่อร้าน ชื่อผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงหน้ารายละเอียดก็เขียนด้วยโปรแกรม ChatGPT โดยทีมงานเป็นผู้ป้อนข้อมูลสั่งการ AI เช่น ส่งคำสั่งที่สั้นกระชับถึงความต้องการด้านการออกแบบเสื้อผ้าไปยัง ChatGPT และป้อนพารามิเตอร์ของเสื้อผ้าที่เกี่ยวข้อง เช่น ผ้าที่ใช้ ส่วนประกอบของวัสดุและรูปแบบ จากนั้นเสื้อผ้าที่เรากำหนดพร้อมคำอธิบายจะเป็นชุดคำสั่งไปที่ Midjourney และรูปของสินค้าจะถูกสร้างขึ้นมาอัตโนมัติ เราเอารูปแบบที่สร้างขึ้นมาไปหาโรงงานและสั่งการผลิต”

ร้าน LumiWink ทำให้เห็นว่า AI สามารถออกแบบสินค้าผลิตภัณฑ์ไปจนถึงสร้างร้านค้าออนไลน์ได้จริง และในช่วงเริ่มต้นถือว่าทำได้ค่อนข้างดี เพราะสินค้าร้านนี้ขายออกไปให้ลูกค้าทั้งหมด 700 กว่าชิ้น ไม่มีลูกค้าให้คะแนนไม่พอใจในสินค้าเลยสักชิ้นเดียว นอกจากนี้แล้ว ร้าน LumiWink ยังได้ใช้ AI เข้ามาไลฟ์สดขายสินค้าด้วย แต่ยังมีข้อจำกัดที่ AI ไม่สามารถตอบโต้แบบเรียลไทม์ได้ การขายของยังไม่มีความเป็นธรรมชาติเหมือนกับมนุษย์ อย่างเช่นการไลฟ์สดของมนุษย์ถ้าทำได้ดีๆ จะมีลูกค้ากดลิงก์เข้ามาดูสินค้าถึง 5-20% ในขณะที่การไลฟ์สดโดย AI มีอัตราการกดลิงก์เข้ามาดูสินค้าเพียง 1-2% เท่านั้น

และแม้ว่าการไลฟ์สดขายสินค้าด้วย AI ยังมีข้อจำกัดด้านการตอบกลับลูกค้าที่ยังทำไม่ได้ทันทีและความไม่เป็นธรรมชาติ แต่ได้มีผู้ประกอบการที่เห็นโอกาส และได้สร้าง AI ขึ้นมาหลายตัวและเปิดให้บริการแก่ผู้ประกอบร้านค้าบนเถาเป่า โดยจะมีการคิดค่าบริการ 299 หยวน หรือประมาณ 1,500 ต่อวัน ให้หุ่นเสมือนจริง AI ช่วยไลฟ์สดขายสินค้าของร้านค้าต่างๆ ทั้งวันทั้งคืน 24 ชั่วโมง ปัจจุบันมีร้านค้าจำนวนหนึ่งเลือกใช้บริการไลฟ์สดด้วย AI เพราะสะดวกและไลฟ์ขายของได้ตลอดเวลา ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและในแง่ของต้นทุนก็ลดลงได้มาก

ร้าน LumiWink มีการไลฟ์สดขายสินค้าด้วย AI ในช่วงเทศกาลชอปแหลก 618 บางช่วงภายใน 2 ชั่วโมงมีคนกดลิงก์เข้ามาเข้าชมสินค้าถึง 1.6 แสนคน และปัจจุบันการดำเนินกิจการร้าน LumiWink ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นจนส่งของถึงมือลูกค้า AI ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจการ 30-40% ถือว่าอยู่ในอัตราที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

ตัวอย่าง AI เสมือนคนจริงไลฟ์สดขายของ (ที่มา Bilibili)
ในด้านของการเปิดร้านออนไลน์ด้วย AI ทีมงาน LumiWink ได้สรุปเรื่องราวเบื้องหลังและประสบการณ์ไว้ดังต่อไปนี้

- AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของร้านได้จริงๆ การใช้ ChatGPT ตั้งชื่อร้านโดยให้โจทย์กับ AI ไปว่า “น่ารัก หยอกล้อ มีจิตวิญญาณและร้อนแรง เหมาะกับสาวยุคใหม่” เมื่อให้โจทย์ไป ChatGPT ให้ชื่อมาหลายชื่อ ทางทีมงานเลยเลือกใช้ LumiWink ต่อมาใช้ Midjourney ออกแบบสินค้าและโลโก้ สุดท้ายอัปโหลดข้อมูลกราฟิกของผลิตภัณฑ์และราคาไปยังเถาเป่าแค่นี้ก็เสร็จสิ้น โดยรวมถือว่า AI ทำได้ดีมากแม้ว่าบางรายละเอียดอาจจะต้องมีการเกลานิดหน่อยเท่านั้น

- "AI + อีคอมเมิร์ซ" ลดต้นทุนได้จริง แต่การตลาดประสบการณ์ของลูกค้ายังคงเป็นกุญแจสำคัญ ประสบการณ์ของ LumiWink เป็นตัวอย่างให้ร้านค้าอื่นๆ ได้ และด้านการตลาดต้องใช้ AI เข้ามาเสริมช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด การโฆษณา ติดตามสถานการณ์การดำเนินงานของร้านค้า และประเมินความพอใจของลูกค้าหลังการขาย เป็นต้น

- การเข้าถึงโปรแกรม AI อย่าง ChatGPT, Stable Diffusion, Midjourney ยังคงมีข้อจำกัดสำหรับผู้ประกอบการจีน หากโปรแกรม AI ในประเทศสามารถทำได้เหมือนกับต่างประเทศ นำมาใช้งานได้จริงและปรับให้เข้ากับท้องถิ่นได้มากขึ้น อนาคตอาจจะมีการใช้ AI ในภาคธุรกิจออนไลน์จีนมากขึ้นไปอีก

ร้านเสื้อผ้า AI “LumiWink” เป็นตัวอย่างที่กำลังนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ร้านค้าออนไลน์ทั้งหลายในจีน การประยุกต์ใช้ AI จะแพร่หลายอย่างรวดเร็วในอนาคต ในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซจีนคาดว่า AI จะนำมาซึ่งโอกาสในการพัฒนาอัปเกรดขึ้นไปใหม่อีกขั้น ผู้ที่ประกอบอาชีพออกแบบเว็บไซต์หรือนักออกแบบสินค้าต้องปรับตัวมาเรียนรู้ด้านการสั่งการ AI และใช้โปรแกรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้เชี่ยวชาญ คนที่ไม่ปรับตัวอาจจะตกงานได้ง่ายๆ ในอนาคต เพราะความเปลี่ยนแปลงมักมาเร็วกว่าที่เราคาดคิดเสมอ


กำลังโหลดความคิดเห็น