ทุเรียนที่จีนปลูกเองคาดว่าจะออกสู่ตลาดได้ในเดือนนี้ แต่กว่าผลผลิตจะไปถึงมือผู้บริโภคส่วนใหญ่ในประเทศต้องใช้เวลาอีกหลายปี
โอกาสทำเงินสำหรับเกษตรกรบนเกาะไหหลำ หรือไห่หนัน มณฑลสภาพอากาศแบบเขตร้อนของจีนกำลังจะมาถึง หลังจากลงต้นกล้าทุเรียนดูแลรดน้ำมานานกว่า 4 ปี และตอนนี้พวกเขาเตรียมพร้อมเก็บเกี่ยวผลผลิตครั้งใหญ่ครั้งแรกในประเทศ
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินล่าสุด เมื่อวันเสาร์ (3 มิ.ย.) ของนายเฟิง เสวี่ยเจี๋ย นักวิจัยและผู้อำนวยการสถาบันไม้ผลเขตร้อน ประจำสถาบันศึกษาวิทยาศาสตร์การเกษตรไห่หนันคาดว่า เกาะไหหลำจะเก็บผลทุเรียนได้ราว 50 ตันในปีนี้ หรือแค่ 0.005% ของทุเรียนที่บริโภคทั้งหมดในจีนปีละ 1 ล้านตัน
เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เขาเคยประเมินผลผลิตทุเรียนบนเกาะไหหลำว่าจะสูงถึง 2,450 ตัน แต่ยอมรับในเวลาต่อมาว่า สูงเกินไปเมื่อดูจากการให้ผลผลิต ซึ่งสวนบางแห่งผลทุเรียนยังไม่โตเต็มที่ โดยมีการปลูกทุเรียนเกือบ 4,375 ไร่ ในเมืองซันย่า แต่แปลงทุเรียนที่ออกดอกทั้งหมดมีเพียง 437.5 ไร่เท่านั้น
นายเฟิง ระบุว่า เกาะไหหลำอาจต้องใช้เวลาอีกสัก 2-3 ปี จึงจะสามารถผลิตทุเรียนได้มากเพียงพอที่จะฉุดให้ราคาทุเรียนในประเทศลดลงมาบ้าง แต่ถึงตอนนั้น ราคาทุเรียนในจีนก็ใช่ว่าจะถูกลงอย่างมาก เนื่องจากการปลูกทุเรียนในจีนอยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มต้น ย่อมเสียค่าใช้จ่ายสูงกว่าการปลูกในแถบอาเซียน โดยต้องรออีก 3-5 ปีให้พื้นที่ปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นกว่า 125,000-187,500 ไร่เสียก่อน จึงจะส่งผลต่อราคาทุเรียนในประเทศอย่างแท้จริง
สำหรับทุเรียนที่เก็บเกี่ยวในเดือนนี้จะถูกจัดสรรไปยังลูกค้า ซึ่งมีศักยภาพในไหหลำ เพื่อพัฒนาตลาด และส่วนที่เหลือนักท่องเที่ยวในท้องถิ่นอาจได้บริโภค ดังนั้น ผู้บริโภคในส่วนอื่นๆ ของประเทศจึงยังอาจหาซื้อมารับประทานไม่ได้
จากการเปิดเผยของนายเฟิง จีนกำลังจัดตั้งระบบการปรับปรุงพันธุ์พืช ที่เป็นอิสระไม่ขึ้นกับใคร มีการพยายามปลูกทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของจีน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเชิงอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ทุเรียนเป็นผลไม้พื้นเมืองของชาติแถบอาเซียน ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดบนแดนมังกร ส่งผลให้ราคาพุ่งสูงและเผลอแป๊บเดียวก็ขายเกลี้ยงตลาด
จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ไตรมาสแรกปีนี้เวียดนามส่งออกทุเรียนเป็นมูลค่า 153 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,318 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 7.3 เท่าจากปีก่อน โดยจีนรับซื้อ 87% ของทั้งหมด การสั่งซื้อทุเรียนเวียดนามผ่าน JD.com ต้องสั่งซื้อล่วงหน้า ทุเรียนหนัก 7 กก. ราคาตกประมาณ 349 หยวน (ราว 1,703 บาท)
ส่วนทุเรียนจากไทยและมาเลเซียขณะนี้ขายหมดเกลี้ยงบนแพลตฟอร์ม Tmall
ขณะที่ชาติอื่นๆ ก็กำลังเจาะตลาดผู้บริโภคทุเรียนแดนมังกร เช่น ฟิลิปปินส์ ซึ่งระหว่างประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์เยือนจีนเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา มีการลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างกัน ซึ่งคาดว่า จะสร้างรายได้ 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9,037 ล้านบาท) ให้อุตสาหกรรมทุเรียนแดนตากาล็อก โดยฟิลิปปินส์ส่งทุเรียนไปจีนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 เม.ย. จำนวน 28 ตัน จากข้อมูลกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์
จีนกำลังเดิมพันว่า ทุเรียนที่จีนปลูกเองจะลดราคาทุเรียนในประเทศได้ และจีนจะได้รับประโยชน์จากการบริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม รสชาติอร่อยเทียบเท่าทุเรียนนำเข้าจากชาติอาเซียนต่างหากคือกุญแจสำคัญไปสู่เป้าหมายความสำเร็จเหล่านี้
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์