ไทยยึดพาสปอร์ตนักข่าวจีน กัว หรุ่ย (Guo Rui) หรือจีจี้ แล้วหลังถูกจับเมื่อวันศุกร์ (26 พ.ค.) จากเหตุอ้างชื่อนายตำรวจใหญ่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เรียกรับเงินจากแก๊งอาชญากรรมจีนเทาเป็น “ค่าวิ่งเต้นให้พ้นคดี”
ในข้อกล่าวหาการจับกุมกัว หรุ่ย วัย 44 ปี ระบุว่า กัวได้บอกกับหญิงเชื้อสายจีนสัญชาติไทย คือ น.ส.นวพร ภาเกียรติสกุล ซึ่งถูกตำรวจจับกุมตัวเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อดำเนินการไต่สวนการค้ามนุษย์ ว่า เธอ (จีจี้) สามารถคุยกับตำรวจให้เคลียร์คดีปล่อยตัวผู้ต้องหาคือน.ส.นวพร ได้ถ้าให้เงินค่าเคลียร์คดี 33 ล้านบาท แต่ฝ่าย น.ส.นวพร จ่ายเงินให้จีจี้แค่ 14 ล้านบาท
ตำรวจกล่าวว่า น.ส.นวพร เป็นหัวหน้าแก๊งอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายอุ้มบุญแบบผิดกฎหมายในไทย และยังช่วยชาวจีนได้รับอนุมัติบัตรพำนักในประเทศ (non-citizen Ids) ซึ่งอนุญาตให้พวกเขาอยู่ในประเทศได้นานกว่าวีซ่านักท่องเที่ยว
ตำรวจเผยอีกว่า น.ส.นวพร เป็นนายหน้าจัดหาผู้หญิงไทยที่จะมาเป็นแม่อุ้มบุญให้คู่สมรสชาวจีน ซึ่งเด็กที่เกิดมาจะได้สัญชาติไทยโดยอัตโนมัติ
ในวันจันทร์ (28 พ.ค.) ตำรวจได้คุมตัวจีจี้ มาที่กองบังคับการปราบปรามเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในคดีเรียกรับเงิน ซึ่งจีจี้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมกันนี้ ตำรวจได้อนุญาตการประกันตัวจีจี้ และปล่อยตัวออกไปแล้วด้วยเงิน 3.5 ล้านบาท
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า ทางหน่วยงานตำรวจเคยว่าจ้างจีจี้ เป็นผู้ประสานงานเนื่องจากทักษะภาษาจีน และคอนเนกชันในต่างประเทศที่ดีของเธอ แต่ทางตำรวจจะดำเนินคดีลงโทษเธอตามกฎหมายอย่างแน่นอน โทษฐานอ้างชื่อตำรวจเพื่อรีดไถสินบนแก๊งอาชญากรรม โดยขณะนี้ทางตำรวจมีหลักฐานเหนียวแน่นที่จะพิสูจน์ความผิดของจีจี้
จากข้อมูลในเสิร์ชเอนจินอันดับหนึ่งของประเทศจีน ‘ไป่ตู้’ (Baidu) ระบุว่า กัว หรุ่ย （郭蕊/Guo Rui）ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ จีจี้ (Gegee) เกิดเมื่อปี 1979 เป็นชาวปักกิ่ง ครอบครัวทำธุรกิจขายไวโอลิน ย้ายมาอยู่ไทยตั้งแต่ปี 1983 จีจี้กลับไปเรียนที่ปักกิ่ง ต่อมาในปี 1993 กลับมาอาศัยทำงานอยู่ในไทยตลอดมา ปัจจุบันเธอถือวีซ่าประเภทพิเศษสำหรับนักธุรกิจ นักลงทุนชาวต่างชาติ (Thailand Privilege Card)
กัว หรุ่ย มีสถานภาพชั้นนำในไทย โดยเป็นทั้งนักข่าว เจ้าของสื่อ เจ้าของธุรกิจชื่อดัง เช่น เป็นประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไทยเจียระไน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริษัทนี้มีชื่อจีนคือ 泰国亚洲大众集团 (大众)有限公司 และชื่อภาษาอังกฤษคือ Thai Asia Media Public ประธานและเลขาฯ สมาคมสื่อใหม่ไทย-จีน ประธานและบรรณาธิการใหญ่สำนักข่าว Thailand Headlines (Toutiao News Agency in Thailand) บรรณาธิการใหญ่ mangu@magazine (@Bangkok) อดีตประธานและผู้ร่วมก่อตั้ง Thailand International Chinese Channel (TCITV) ด้วยบทบาทชื่อเสียงเหล่านี้ จีจี จึงได้ฉายา “เจ๊ใหญ่แห่งแวดวงไทย-จีน” （泰华一姐）
ในเดือน ส.ค.ปี 2013 กัวหรุ่ยเปิดนิตยสารจีนออนไลน์รายแรกของประเทศไทย คือ Thailand Headline News ซึ่งเป็นหนึ่งในค่ายสื่อจีนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งเป็นสำนักข่าวเพียงรายเดียวของซีน่า ดอท คอม (Sina.com) ซึ่งเป็นเว็บท่าใหญ่ที่สุดในประเทศจีน นอกจากนี้ กัวหรุ่ยยังมีบทบาทในหน่วยงานที่มีบทบาทสูงในบริษัทชั้นนำต่างๆ ทั้งในประเทศจีนและประเทศไทย
กัว หรุ่ย ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็กสตรีและครอบครัวป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเดือนพ.ย.2022
นอกจากนี้ รายงานข่าวระบุว่า จีจี้ มีบทบาทช่วยงานตำรวจ เช่น อุบัติเหตุเรือนักท่องเที่ยวจีนล่มที่จังหวัดภูเก็ตปี 2018 (2561) และยังเคยทำงานกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล สมัยดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจการท่องเที่ยว ช่วยประสานงานพูดกับกับค่ายสื่อจีนในหลายคดี
ที่มาข่าว
Thailand seizes passport of Chinese journalist who used police connections to get bribes
易悦人物访谈 |泰国亚洲大众集团董事长郭蕊：长在泰国的北京大妞儿
郭蕊（泰國亞洲大眾集團（大眾）有限公司董事長）
