เจ-20 กำลังสยายปีกขยายฝูงบิน เสริมเขี้ยวเล็บทัพฟ้าพญามังกร แต่ความก้าวหน้าของเครื่องบินขับไล่ล่องหน "เมดอินไชน่า" ลำแรกนี้ก็มาพร้อมกับกระแสข่าวว่า จีนขโมยเทคโนโลยีเอฟ-22 แร็ปเตอร์ ของสหรัฐฯ และยังมีข้อสงสัยด้วยว่า จีนยกฮาร์ดแวร์จากซากเครื่องบินล่องหนมะกันอีกลำ
“คนเหล่านั้นได้กำไรมหาศาลจากการลักขโมยมานานนับปี”
“พวกเขาได้นำไปใช้ประโยชน์ และคิดค้นเครื่องบินขับไล่ล้ำสมัยยุคที่ 5 ขึ้นมา”
นายเจมส์ แอนเดอร์สัน อดีตหัวหน้าที่ปรึกษา รมว.กลาโหมด้านนโยบายการป้องกันของสหรัฐฯ ระบุกับฟ็อกซ์นิวส์เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เขาอ้างกระแสข่าวที่ว่า จีนได้ข้อมูลลับเกี่ยวกับเครื่องบินขับไล่ล่องหนเอฟ-22 แร็ปเตอร์ของสหรัฐฯ และนำมาออกแบบสร้างเจ-20
แต่อันที่จริงแล้ว เบื้องหลังการสร้างเจ-20 มีตำนานเล่าลือย้อนไปตั้งแต่เมื่อ 25 ปีก่อน ซึ่งมีที่มาจากเหตุการณ์เครื่องบินล่องหนลำแรกของสหรัฐฯ ถูกยิงตก
เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2542 องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต นำโดยสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีทางอากาศเป้าหมายทหารของเซอร์เบีย เพื่อตอบโต้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในแคว้นโคโซโว การโจมตีทางอากาศอยู่นานเกือบ 3 เดือนของนาโตนับว่าสร้างความสะท้านสะเทือนอยู่พอแรงแล้ว ทว่าได้เกิดเรื่องที่สร้างความสั่นสะท้านยิ่งกว่านั้นในวันที่ 27 มี.ค.2542 เมื่อเอฟ-117 ไนต์ฮอว์ก หรือเหยี่ยวราตรี เครื่องบินล่องหนลำแรกของโลก ถูกทหารเซอร์เบียสอยร่วงเหนือการคาดฝัน
รูปทรงและวัสดุที่ใช้สร้างเอฟ-117 ทำให้มันเล็ดลอดการตรวจจับของเรดาร์ไปได้ แต่ฝ่ายเซอร์เบียสามารถวิเคราะห์รูปแบบการบินของนาโต จนประเมินเส้นทางบินของเหยี่ยวราตรีในคืนนั้นได้สำเร็จ และสบโอกาสเมื่อประตูช่องเก็บระเบิดใต้ท้องเครื่องบินเปิดออก เผยพื้นผิวภายในซึ่งไม่ได้ทำด้วยวัสดุล่องหน ฝ่ายเซอร์เบียจึงยิงขีปนาวุธยุค 1960 ของโซเวียตใส่ทันที
ด้วยไหวพริบของฝ่ายเซอร์เบียและความมั่นใจสูงเกินไปของสหรัฐฯ หนึ่งในเครื่องบินล้ำสมัยที่สุดของโลกจึงกลายเป็นเศษซากอยู่บนพื้นพสุธา
นักบินดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัยก็จริง แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้สหรัฐฯ ขายหน้า
เศษซากเครื่องบินอันเป็นความลับสุดยอดของมะกัน กระจายเกลื่อนบนดินแดนฝ่ายข้าศึก
ต่อมาไม่นานได้เกิดอีกเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์นำมาเชื่อมโยงกันและเดาว่า จีนคงได้ชิ้นส่วนเอฟ-117 ไป นั่นก็คือเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนบี-2 ของสหรัฐฯ ยิงถล่มสถานทูตจีนในกรุงเบลเกรดของเซอร์เบียเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2542 พลเมืองจีนเสียชีวิต 3 คน
รัฐบาลปักกิ่งชี้ว่า เป็นการโจมตีโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่สหรัฐฯ อ้างว่าเป็นอุบัติเหตุจากความผิดพลาดของหน่วยข่าวกรอง ประธานาธิบดี บิลล์ คลินตัน ผู้นำเมกาสมัยนั้นออกมาขอโทษขอโพยจีนเมื่อวันที่ 10 พ.ค.
พลเรือเอกดาวอร์ โดมาเซ็ต-โลโซ เสนาธิการของโครเอเชีย ระบุกับเอพีเมื่อปี 2554 ว่า ในระหว่างการโจมตีทางอากาศของนาโต หน่วยข่าวกรองโครเอเชียสืบทราบว่า สายลับของจีนได้เข้าไปขอซื้อเศษเครื่องบินจากเกษตรกรในท้องถิ่นที่เอฟ-117 ตก โครเอเชียเชื่อว่าจีนล้วงความลับเทคโนโลยีล่องหนจากเศษชิ้นส่วนเหล่านี้
หลังจากความเห็นของโดมาเซ็ต-โลโซ เผยแพร่ออกไปไม่นาน เจ้าหน้าที่กลาโหมของสหรัฐฯ หลายคนก็ออกมาให้ความเห็นทำนองเดียวกัน
จากข้อมูลใน นิกเกอิเอเชีย ปี 2564 มีบทความของชาวจีนหลายชิ้นอ้างว่า ชาวเซอร์เบียได้ให้เศษชิ้นส่วนเอฟ-117 แก่จีน ซึ่งรวมทั้งส่วนประกอบของตัวเครื่องบินที่ทำให้ล่องหนได้ และชิ้นส่วนทนความร้อนในเครื่องยนต์ จีนเก็บทั้งหมดนี้ไว้ที่ชั้นใต้ดินของสถานทูต ก่อนส่งกลับประเทศ
บทความเหล่านี้อ้างว่า สหรัฐฯ ตรวจจับสัญญาณจากเศษชิ้นส่วนนั้นได้ก็เลยถล่มสถานทูตจีน ทว่าทำลายเศษชิ้นส่วนเอฟ-117 ที่นั่นไม่สำเร็จ
เพนตากอนไม่ได้บ้า หรือสะเพร่าที่ก่อเหตุ ซึ่งอาจเป็นชนวนของสงครามกับชาติที่มีอำนาจมากที่สุดชาติหนึ่งอย่างจีน แต่เป็นเพราะต้องการรักษาความลับของเอฟ-117 นั่นเอง
มีหลักฐานอยู่มากมายว่า จีนพยายามขโมยความลับด้านเศรษฐกิจและการทหาร ไม่เฉพาะจากสหรัฐฯ แต่จากรัสเซียด้วย ซึ่งมอสโกระบุว่า จีนก๊อบปี้บางอย่างจากงานออกแบบของรัสเซีย มาสร้างเจ-20
แต่การจารกรรมความลับอีกฝ่าย หรือการกล่าวหาว่าอีกฝ่ายใช้กลอุบายเพื่อผลประโยชน์ของตนเองนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ชาติต่างๆ ก็ทำกัน
วันนี้ จีนอาจมีเครื่องบินเจ-20 ประจำการแล้วราว 150 ลำ รัฐบาลปักกิ่งระบุด้วยว่า กำลังขยายการใช้งาน เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯ เชื่อว่า นักบินจีนบังคับควบคุมเจ-20 ได้ในระดับ "ดีพอใช้" แต่เจ-20 ยังห่างชั้นเอฟ-22 จนกว่าจีนจะพัฒนาเครื่องยนต์ดีกว่านี้
ทว่าเจ-20 ติดค้างหนี้เครื่องบินขับไล่ล่องหนมะกัน ที่มอดไหม้หมดสภาพกลางทุ่งนาบนคาบสมุทรบอลข่านลำนั้นมากน้อยเท่าใดนั้น เราอาจไม่มีวันรู้ได้เลย
จาก “A downed US jet, a bombed embassy, and 25 years of rumors about how China built its first stealth fighter” ในบิสซิเนสอินไซเดอร์