เมื่อวันพุธ (12 เม.ย.) จีนได้ออกแนวปฏิบัติชุดใหม่เกี่ยวกับการใช้หน้ากากอนามัยของสาธารณชนทั่วไปเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งระบุว่าปัจจุบันไม่มีการบังคับสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะอีกต่อไป
แนวปฏิบัติชุดใหม่จากกลไกร่วมป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 แห่งคณะรัฐมนตรีจีน มีเป้าหมายชี้แจงสถานการณ์และพฤติการณ์ต่างๆ ในการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งประชาชนควรปฏิบัติตาม สามารถเลือกปฏิบัติตาม หรืออาจเลือกไม่ปฏิบัติตาม
ทั้งนี้ ทางการจีนยังคงแนะนำประชาชนสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะและเข้าซูเปอร์มาร์เกต โรงภาพยนตร์ และพื้นที่ในร่มอื่นๆ ที่มีผู้คนจำนวนมากรวมตัวกัน
แต่ละบุคคลสามารถใช้วิจารณญาณเลือกสวมหรือไม่สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่กลางแจ้ง เช่น ลานสาธารณะและสวนสาธารณะ ขณะเดียวกัน นักเรียนไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยที่โรงเรียนแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ดี มีการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในบางพฤติการณ์ ได้แก่ บุคคลที่มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก หรือแสดงอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้อง ณ ช่วงที่เกิดการระบาดในท้องถิ่น และขณะเข้าสู่สถาบันการแพทย์และบ้านพักคนชรา