“เควิน แม็คคาร์ที” ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล้ากระตุกหนวดพญามังกร พบกับผู้นำไต้หวันบนแผ่นดินอเมริกา เพียงเพื่อสร้างคะแนนนิยมทางการเมือง
การพบปะระหว่างนายแม็คคาร์ทีกับ “ไช่ อิงเหวิน” ซึ่งจีนเรียกว่า ผู้นำระดับภูมิภาคที่ห้องสมุดโรนัลด์เรแกน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันพุธ (5 เม.ย.) นักวิเคราะห์ของจีนและตะวันตกมองว่า เป็นการจัดฉากของบุคคลทั้งสอง
ในส่วนของนายแม็คคาร์ที นั้นถูกผู้สันทัดกรณีหลายคน รวมทั้งนายหลี่ว์ เซียง นักวิจัยของสถาบันสังคมศาสตร์จีนเปลือยตัวตนว่า ต้องการสร้างภาพเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง เพราะฐานะทางการเมืองของเขาอ่อนแอ นายแม็คคาร์ที เป็นตัวเลือกสำหรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ไม่มีใครนิยม แม้แต่ในพรรครีพับลิกันที่เขาสังกัดเอง การทำตัวเป็นหัวหอกต่อต้านจีน และ “ประเด็นไต้หวัน” จึงเป็นไพ่ไม่กี่ใบ ที่นายแม็คคาร์ที จะหยิบมาเล่นได้เพื่อสร้างคะแนนนิยม จุดยืนต่อต้านจีนยังเป็นอุบายสำคัญที่พวกนักการเมืองมะกันนำมาใช้ เพื่อเรียกเสียงสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใกล้ถึงการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2567
กว่านายแม็คคาร์ที จะได้รับเลือกดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแทนนางแนนซี เพโลซี เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ส.ส. ต้องลงคะแนนถึง 15 ครั้ง เป็นการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ยาวนานสุดของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ก่อนยุคสงครามกลางเมือง ทั้งที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก
ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี เห็นได้ชัดว่าคนส่วนใหญ่ในอเมริกาไม่เต็มใจให้นายแม็คคาร์ที ขึ้นมามีอำนาจมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ถัดจากประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี พวกรีพับลิกันจำนวนหนึ่งไม่พอใจทัศนคติของเขาที่ไม่แข็งกร้าวและไม่มีความเป็นอนุรักษนิยมเพียงพอ นอกจากนั้น มีผู้เรียกร้องให้นายแม็คคาร์ที รับผิดชอบต่อการกระทำที่ไร้สามัญสำนึกของเขาหลายอย่าง เช่น ให้พิธีกรของฟ็อกซ์นิวส์ เข้าถึงคลิปจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ผู้ประท้วงบุกอาคารรัฐสภาวันที่ 6 ม.ค.2564 ขณะที่เอบีซีนิวส์รายงานว่า นายแม็คคาร์ที ถึงกับตกลงยินยอมทำตามข้อเรียกร้องเพื่อให้กลุ่มต่อต้านยอมโหวตเลือกเขา เช่น การยินยอมให้การขับประธานสภาพ้นตำแหน่งกระทำได้ง่ายขึ้น
เมื่อเดือน พ.ค.2563 ขณะเป็นผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร นายแม็คคาร์ที ได้ประกาศจัดตั้ง “คณะทำงานเฉพาะกิจเกี่ยวกับจีน” ทำหน้าที่ประสานงานด้านยุทธศาสตร์ของฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อรับมือกับปัญหาท้าทายทุกมิติจากจีน นายแม็คคาร์ที พยายามผลักดันเพื่อให้แยกเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากจีน และพยายามเข้ามาแทนที่จีนในห่วงโซ่อุปทานโลก
ต่อมาเมื่อรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ 3 วัน นายแม็คคาร์ที ก็แต่งตั้งคณะกรรมาธิการชุดหนึ่ง เพื่อแก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านต่างๆ จากจีน โดยได้รับการเห็นชอบจากสมาชิกสภาอย่างท่วมท้น
เมื่อเดือนก่อน นายจอห์น เคอร์บี โฆษกฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐฯ เคารพต่อนโยบายจีนเดียว และไม่ต้องการเห็น “สภานภาพปัจจุบัน” ของช่องแคบไต้หวันเปลี่ยนแปลงไป แต่นายแม็คคาร์ที กลับยืนยันว่า เขามีแผนที่จะพบกับไช่ อิงเหวิน ในสหรัฐฯ ระหว่างที่ผู้นำไต้หวันแวะพักต่อเครื่องบิน
ในความเห็นของนักวิเคราะห์ การพบกับไช่ อิงเหวิน ซึ่งเป็นการเล่นกับหลักการจีนเดียว จึงเป็นการตบหน้าฉาดใหญ่และสร้างความอึดอัดใจให้แก่รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ซึ่งส่งสัญญาณอยู่หลายหนว่ากำลังพยายามรักษาช่องทางการติดต่อสื่อสารกับรัฐบาลปักกิ่งท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่
นายชาร์ลส์ ดับเบิ้ลยู. ฟรีแมน จูเนียร์ อดีตนักการทูตอาวุโสของสหรัฐฯ ระบุว่า ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ เป็นฝ่ายทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในหนังสือแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ 3 ข้อ ซึ่งเป็นสิ่งกำหนดเงื่อนไขในการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างชาติทั้งสอง เช่น การยอมรับเงื่อนไขว่ามีประเทศจีนแห่งเดียวในโลก และไต้หวันเป็นเพียงดินแดนส่วนหนึ่งของจีน
นายฟรีแมน ชี้ว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้คือนักการเมืองอเมริกันชอบไปเกาะไต้หวัน และชูกำปั้นใส่จีน
“ครั้นจีนตอบโต้ พวกเขาก็รู้สึกดีว่า เราทำให้จีนสนใจได้ นี่เป็นสิ่งที่ดี” เขาระบุ
นายฟรีแมน ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า พฤติกรรมของนักการเมืองสหรัฐฯ ที่หวังใช้ประโยชน์จากความรู้สึกต่อต้านจีนในหมู่คนอเมริกันนั้น มีคนไต้หวันมากมายไม่อยากถูกดึงเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะนี่มิใช่สิ่งที่ดีสำหรับไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่
ข้อมูลจาก "GT investigates: why are more US politicians joining Kevin McCarthy's anti-China stunt?" ในโกลบอลไทมส์