ผู้นำจีนเขียนบทความก่อนเริ่มการเยือนรัสเซีย ประกาศโลกต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่การมีหลายขั้วอำนาจ ด้านปูตินชื่นชมความมุ่งมั่นของผู้นำจีนในการช่วยยุติวิกฤตการณ์ยูเครน
สำนักข่าวอาร์ทีของรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ได้เขียนบทความชิ้นหนึ่ง ซึ่งเท่ากับเป็นการกำหนดทิศทางการเดินทางเยือนรัสเซียของเขาระหว่างวันที่ 20-22 มี.ค.2566 และรอสซีสกายา กาเซตา (Rossiyskaya Gazeta) สื่อของทางการรัสเซียนำมาเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (19 มี.ค.) โดยเนื้อหาในบทความของสี จิ้นผิง พูดถึงกระแสของประวัติศาสตร์ซี่งไม่อาจหยุดยั้งและจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งนั้นคือโลก ซึ่งประกอบด้วยอำนาจหลายขั้ว มีสันติภาพและการพัฒนา ตลอดจนมีความร่วมมือที่ก่อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย นอกจากนั้น เขายังตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้โลกกำลังเผชิญกับปัญหาท้าทายด้านความมั่นคงทั้งในรูปแบบ ที่มีมาแต่ดั้งเดิมและในรูปแบบใหม่ รวมถึงการเผชิญกับพฤติกรรมความเป็นเจ้าโลก การครอบงำ และการกลั่นแกล้ง ในขณะที่นานาประเทศกระตือรือร้นค้นหาหนทางความร่วมมือเพื่อก้าวพ้นจากวิฤตการณ์นี้ และพยายามก้าวไปสู่เส้นทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยืดยาวและคดเคี้ยว
สำนักข่าวอาร์ทีระบุว่า การแสดงความเห็นของผู้นำจีนเท่ากับเป็นการประกาศไม่ยอมให้ชาติหนึ่งชาติใดมาบงการระเบียบกติการะหว่างประเทศ และการประกาศเรื่องการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกที่มีอำนาจหลายขั้วครั้งนี้เพื่อปลดปล่อยจากการครอบงำของสหรัฐฯ โดยความเห็นของผู้นำจีนมีขึ้นในท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับวิกฤตการณ์ยูเครน และการที่สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงอธิปไตยของจีนเหนือไต้หวัน โดยจีนต่อต้านแรงกดดันของตะวันตก ที่ต้องการให้จีนประณามรัสเซียกรณีวิกฤตยูเครน แต่จีนยังคงวางตัวเป็นกลาง พร้อมกับเสนอแผนสันติภาพ 12 ข้อ ซึ่งถูกสหรัฐฯ ปฏิเสธ พร้อมกับกล่าวหาจีนว่า ให้การช่วยเหลือด้านการทหารแก่รัสเซีย
เอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียได้เขียนบทความชิ้นหนึ่ง ซึ่งทำเนียบเครมลินเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (19 มี.ค.) เช่นกัน โดยปูติน กล่าวยินดีที่จีนจะเข้ามามีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในการยุติวิกฤตการณ์ยูเครน พร้อมกับระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียกระชับแน่นแฟ้นถึงจุดสูงสุด พร้อมกับรู้สึกขอบคุณที่ปักกิ่งวางตัวเป็นกลาง ตลอดจนเข้าใจเบื้องหลัง และ “เหตุผลที่แท้จริง” ของวิกฤตการณ์ยูเครน
ปูติน กล่าวย้ำในบทความว่า รัสเซียพร้อมยุติวิกฤตการณ์ยูเครนด้วยหนทางการเมืองและการทูต อย่างไรก็ตาม ยูเครนต้องยอมรับ “ความเป็นจริงทางภูมิรัฐศาสตร์ใหม่” ด้วยเช่นกัน เช่น การที่รัสเซียผนวก 4 ภูมิภาคของยูเครนเมื่อปีที่แล้ว และการผนวกคาบสมุทรไครเมียในปี 2557
ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า การเยือนรัสเซียตามคำเชิญของผู้นำรัสเซียครั้งนี้เป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรก หลังจากสี จิ้นผิง ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดีจีนสมัยที่ 3 โดยเป็นการเยือนแห่งมิตรภาพ ความร่วมมือและสันติภาพ มีเป้าหมายเพื่อวางแผนแม่บทสำหรับการพัฒนาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างจีน-รัสเซียในยุคใหม่ นับเป็นการมาเยือนครั้งที่ 9 ในฐานะประธานาธิบดีจีน โดย สี จิ้นผิง และปูตินมีโอกาสได้พบปะกันประมาณ 40 ครั้งตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม โกลบอลไทมส์ สื่อของทางการจีนระบุด้วยว่า เป็นการเยือนที่กำลังถูกจับจ้องจากทั่วโลก แต่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรกำลังมองการมาเยือนครั้งนี้ผ่าน “แว่นกันแดด” อย่างบิดเบือนและใส่ร้ายป้ายสีบทบาทของจีนในฐานะผู้เจรจาคนกลางเพื่อยุติวิกฤตการณ์ยูเครน