โกลบอลไทมส์ - คณะรัฐมนตรีชุดใหม่แดนมังกรล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือด้านเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมขับเคลื่อนวาระสำคัญของรัฐบาลกลาง เพื่อการพัฒนาประเทศ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และส่งเสริมความเชื่อมั่นของตลาด
การแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของจีน ตลอดจนตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลาง และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินได้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ชุดที่ 14 สมัยประชุมประจำปีครั้งที่ 1 ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากผู้แทนของ NPC โหวตรับรอง และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง
จีนคงรัฐมนตรีคนเดิมไว้หลายตำแหน่ง ซึ่งรวมทั้งนายหลิว คุณ รัฐมนตรีคลัง นายหลี่ เสี่ยวเผิง รัฐมนตรีคมนาคม ส่วนรัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่อีกหลายคนก็มีภูมิหลังระดับผู้บริหารบริษัท
นายอี้ กัง วัย 65 ปี ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ว่าการธนาคารกลางต่อไป และนายโฮ่ว ข่าย ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งชาติ
นายหวัง จวิ้น ผู้เชี่ยวชาญประจำศูนย์แลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีนในกรุงปักกิ่ง ระบุว่า โฉมหน้า ครม.ชุดใหม่สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนหลักการพัฒนาเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน พรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับความต่อเนื่องของการดำเนินนโยบายด้วยเช่นกัน
นายตง เส่าเผิง นักวิจัยอาวุโสแห่งสถาบันการเงินศึกษาของมหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีน กล่าวว่า การแต่งตั้งครั้งนี้บ่งชี้ว่า การเมืองของจีนกับความต้องการผู้มีฝีมือมีความเป็นเอกภาพเดียวกัน
รัฐมนตรีเหล่านี้มีประสบการณ์ในสายงาน และได้พิสูจน์ฝีมือมาแล้ว อีกทั้งเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอุตสาหกรรม เช่น นายจิน จวงหลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ เคยเป็นประธานบริษัทเครื่องบินพาณิชย์จีน (COMAC) นายหวัง จี่กัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (MST) เคยเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทกลุ่มเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์แห่งจีน (CETC) เขาต้องมีบทบาทมากขึ้น หลังจากจีนได้ประกาศแผนการปฏิรูปสถาบันของรัฐหลายแห่ง เพื่อมุ่งปรับโครงสร้างด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครั้งใหญ่เมื่อสัปดาห์ก่อน
การตัดสินใจให้ นายอี้ กัง เป็นผู้ว่าการธนาคารกลางต่อไป หลังจากได้รับแต่งตั้งครั้งแรกเมื่อเดือน มี.ค.2561 นั้น สะท้อนให้เห็นว่า จีนเน้นความสำคัญของเสถียรภาพทางการเงินท่ามกลางความผันผวนทางการเงินที่กำลังรุนแรงมากขึ้นในตลาดโลก ซึ่งตัวอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ คือการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวภาคธนาคารครั้งใหญ่สุด นับตั้งแต่สหรัฐฯ เคยวิกฤตการเงินปี 2551
สำหรับการตั้งเป้าหมายจีดีพีของจีนโตราวร้อยละ 5 ในปีนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญของจีน รวมทั้งหัวหน้าสำนักสถิติแห่งชาติมั่นใจว่า ทำได้ไม่ยากภายใต้ ครม.ชุดใหม่