ผลสำรวจล่าสุดของแกลลัป (Gallup) บริษัทที่ปรึกษาและทำโพลสำรวจชั้นนำของสหรัฐฯ ระบุทัศนคติของชาวอเมริกันที่มีต่อจีนเดินมาถึงจุดตกต่ำสุดครั้งประวัติการณ์
การสำรวจพบว่า มีชาวอเมริกันเพียงร้อยละ 15 ที่มองจีนอย่างชื่นชอบ นับเป็นอัตราส่วนต่ำสุดเท่าที่แกลลัปเคยสำรวจอารมณ์ความรู้สึกของชาวอเมริกัน ที่มีต่อจีนมาตั้งแต่ปี 2522 หรือเมื่อ 44 ปีก่อน และลดลงอย่างถล่มทลายจากร้อยละ 53 ในปี 2561
การมองจีนในแง่บวกของชาวอเมริกันอยู่ในทิศทางขาลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ทวีความตึงเครียดระหว่างชาติทั้งสอง โดยรายงานผลสำรวจล่าสุดมีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ และจีนเปิดหน้าชนกันอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชนในหลายประเด็นตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
เหตุการณ์สหรัฐฯ พบบอลลูนของจีนลอยเหนือน่านฟ้าและยิงตกเมื่อต้นเดือน ก.พ. โดยกล่าวหาว่าเป็นบอลลูนสอดแนมนั้น ส่งผลให้ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดอยู่ก่อนแล้วยิ่งเขม็งเกลียว นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังเตือนจีนห้ามส่งอาวุธไปช่วยรัสเซียทำสงครามในยูเครน หลังจากมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ของจีนกำลังพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ด้านสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ทั้งจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน พากันพูดถึงข้อวิตกต่างๆ เกี่ยวกับจีน โดยวิพากษ์วิจารณ์จีนอย่างรุนแรงกรณีบอลลูนว่า เป็นการละเมิดอธิปไตยของสหรัฐฯ รวมทั้งเรื่องที่จีนอาจให้การสนับสนุนชาติปรปักษ์กับสหรัฐฯ
การพร้อมใจกันปฏิเสธจีนแบบไม่แบ่งฝักฝ่ายปรากฏให้เห็นในผลสำรวจนี้ ชาวอเมริกันซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครตและที่เป็นอิสระ มีความเห็นเชิงลบต่อจีนอย่างมาก กล่าวคือมีเพียงร้อยละ 17 และร้อยละ 18 ตามลำดับ ที่มองจีนในแง่บวก
ทัศนคติในหมู่ผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันเลวร้ายไปใหญ่ โดยมีเพียงร้อยละ 6 เท่านั้น ที่ชอบจีน
นอกจากนั้น ราว 2 ใน 3 ของผู้ถูกสำรวจทั้งหมดระบุว่า อำนาจทางทหารและทางเศรษฐกิจของจีนเป็นภัยคุกคามสหรัฐฯ ที่ร้ายแรงมาก
การสำรวจครั้งนี้สอบถามชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่จำนวน 1,008 คน ระหว่างวันที่ 1-23 ก.พ. โดยการสำรวจเผื่อความผิดพลาดคลาดเคลื่อนบวกหรือลบ 4 จุด
ที่มา : เดอะฮิลล์