ในยามค่ำคืน ตามเชิงสะพานในเมืองกุ้ยหลิน คลาคล่ำไปด้วยเหล่านักไลฟ์สด หรือสตรีมเมอร์
นักสตรีมเมอร์เหล่านี้นำเสนอรายการไลฟ์สตรีมมิ่ง (Live Streaming) ไปยันเที่ยงคืน พร้อมเครื่องมือหากิน คือ โทรศัพท์มือถือและไฟ พวกเขาต่างแข่งขันชิงผู้ชมจากโซเชียลมีเดีย ‘โต่วอิน’ หรือ ติ๊กต็อกเวอร์ชันจีน เพื่อดึงดูดทิป หรือเงินบริจาค
เฉียวหยา สตรีมเมอร์สาว วัย 27 ปี ไลฟ์สดนอกบ้านเป็นอาชีพ เวลาทำงานของเธอคือ ช่วงสามทุ่มไปถึงตีสาม ค่าทิปจากแฟนๆ ติ๊กต็อกที่ชมไลฟ์สดเป็นรายได้ทางเดียวของเธอ
เฉียวเล่าว่า ในช่วงดีๆ ได้ค่าทิป 300-400 หยวน* (ราว 1,500- 2,000 บาท) ไปถึง 500-600 หยวน (กว่า 2,500-3,000 บาท) ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ในช่วงที่ไม่ดี ไลฟ์สดนาน 6 ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน ได้ค่าทิปแค่ 10 หยวน 40 หยวน หรือ 50 หยวน
ในช่วงฤดูหนาวนักสตรีมเมอร์แดนมังกรที่ทำงานในยามราตรีต้องฝ่าความหนาวยะเยือก อย่างเช่นในช่วงนี้ตอนเที่ยงคืน อุณหภูมิลดลงถึง 0 องศาเซลเซียส
แต่เฉียวบอกว่า นี่เป็นทางเลือกอาชีพที่ดีที่สุดของเธอ เพราะการไลฟ์สดนอกบ้าน มีข้อเรียกร้องน้อยมาก
“กลุ่มผู้ชมจะรู้สึกว่าสตีมเมอร์ที่ไลฟ์สดในตอนกลางคืนต้องอดทนและลำบากมากกว่า ดังนั้น พวกเขาจะเห็นอกเห็นใจพวกเรา ส่วนกลุ่มที่ไลฟ์สดในบ้านต้องแต่งตัวสวยดูดีเพื่อดึงดูดผู้ชม” เฉียว เล่า
จากข้อมูลสถิติ ไบต์เดนซ์ (ByteDance) ระบุว่า ในปี 2020 ผู้ใช้แพลตฟอร์มโต่วอิน มีจำนวนถึง 600 ล้านคน ไลฟ์สตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์มโต่วอิน กลายเป็นเทรนด์อาชีพทำเงินในจีน กิจกรรมไลฟ์สตรีมมิ่งมีตั้งแต่ขายสินค้า ร้องเพลงเต้นรำ พูดคุยกับผู้ชม เป็นต้น
บางนักสตรีมเมอร์ที่ดังระเบิดเถิงเทิงและกลายเป็นมหาเศรษฐี คือ นายหลี่ จยาฉี ฉายา “ราชาลิปสติก” เขากลายเป็นเซเลบแห่งโลกอี-คอมมเมิร์ซ ทำรายได้หลายล้านดอลลาร์ จากค่าธรรมเนียมในการรับรองและโฆษณาสินค้า
สำหรับนักสตรีมเมอร์บนสะพาน อย่างเฉียว หยา มีรายได้น้อยกว่ามาก เธอบอกว่า สตรีมเมอร์ที่ไลฟ์สดบนแพลตฟอร์มโต่วอิน ต้องเซ็นสัญญากับ ‘เอเยนซีไลฟ์สตรีมมิ่ง’
โต่วอิน เรียกเก็บ 50 เปอร์เซ็นต์ จากค่าทิปของสตรีมเมอร์ที่รวบรวมได้ ขณะที่เอเยนซีเรียกเก็บ 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นค่าเช่าอุปกรณ์และจัดการนำเสนอการแสดงไลฟ์สดบนแพลตฟอร์ม ดังนั้น เฉียว หยา จะได้แค่ 40 เปอร์เซ็นต์จากค่าทิปทั้งหมดของเธอ
ไบต์เดนซ์ บริษัทแม่ของโต่วอิน รายงานตัวเลขรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2022 เท่ากับ 18,300 ล้านเหรียญสหรัฐ
“อาชีพเสริม”
กลุ่มสตรีมเมอร์ที่เปิดการแสดงบนสะพานในวันจันทร์เกือบทั้งหมดเป็นสาวรุ่นๆ มีหนุ่มๆ ไม่กี่คน
สตรีมเมอร์อีกรายคือ จาง เซียวเซียว มาเปิดไลฟ์สดตอนกลางคืนเป็นอาชีพเสริม เธอเล่าว่า ช่วงโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออาชีพของเธอมาก มาตรการควบคุมโรคระบาดทำให้เธอเปิดร้านเสริมสวยไม่ได้
“ฉันชอบร้องเพลงและเต้นรำ และตอนนี้มันก็กลายเป็นอาชีพเสริมของฉัน อีกทั้งได้ทำในสิ่งที่ฉันชอบ”
ในเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว โต่วอิน ได้แจ้งเตือนการไลฟ์สตรีมมิ่งนอกบ้านที่จะรบกวนสาธารณชน
จาง เล่าว่า บางทีผู้สัญจรไปมาในบริเวณสะพานก็แสดงท่าทีโกรธใส่ “บางคนมองพวกเราอย่างดูถูก และถามว่าทำไมพวกคุณไม่ไปหาทำอาชีพปกติกัน?”
ทางเอเยนซีได้ส่งทีมบอดี้การ์ดมาดูแลสตรีมเมอร์ บางทีพวกเขาต้องจัดการพาคนเมาหรือคนที่เข้ามาคุกคามออกไป หรือไม่ก็สกัดกลุ่มผู้ชมออนไลน์ที่แสดงพฤติกรรมแย่ๆ
แม้มีความเสี่ยงต่างๆ ก็มีคนบริจาคเงินก้อนโตให้สตรีมเมอร์ที่ชื่นชอบ ทำให้พวกเขามีกำลังกลับมาไลฟ์สด
“ชายนิรนามคนหนึ่งบริจาคให้ฉัน 3,000 หยวน ฉันดีใจมาก ในคืนนั้นฉันเลยกลับบ้านเร็ว” เฉียว หยา เปิดเผย
“ไลฟ์สตรีมมิ่งเป็นงานง่ายๆ ธรรมดาๆ เหมือนกับการทำความรู้จักเพื่อนๆ” เฉียว เล่า
*อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน และบาท ณ วันที่ 24 ก.พ.2566 1 หยวน เท่ากับ 5.03 บาท
ที่มาข่าวเอเอฟพี : Chinese livestreamers flock outdoors for late-night tips
*ภาพประกอบ ภาพบรรยากาศไลฟ์สดบนทางเท้าบนสะพานในเมืองกุ้ยหลิน มณฑลกว่างซีในคืนวันที่ 20 ก.พ.2023 (แฟ้มภาพ เอเอฟพี)