เมื่อวันจันทร์ (13 ก.พ.) นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปีที่แล้ว บอลลูนจากสหรัฐฯ แล่นผ่านน่านฟ้าจีนโดยไม่ได้รับอนุญาตมากกว่า 10 ครั้ง
นายหวัง กล่าวว่า “เป็นเรื่องปกติที่บอลลูนของสหรัฐฯ จะเข้าสู่น่านฟ้าของประเทศอื่นอย่างผิดกฎหมาย”
“ตั้งแต่ปีที่แล้วปีเดียว บอลลูนของสหรัฐฯ ได้บินอย่างผิดกฎหมายเหนือน่านฟ้าของจีนมากกว่า 10 ครั้ง โดยไม่ได้รับการอนุมัติจากทางการจีนที่เกี่ยวข้อง สิ่งแรกที่สหรัฐฯ ควรทำคือการไตร่ตรองตัวเองและเปลี่ยนแนวทางของตัวเอง แทนที่จะใส่ร้าย ทำลายชื่อเสียง หรือยุยงให้เกิดการเผชิญหน้า”
“สหรัฐฯ ใช้ความได้เปรียบทางเทคโนโลยีในทางที่ผิดเพื่อดักฟังโทรศัพท์และขโมยข้อมูลขนาดใหญ่ ... สหรัฐฯ ละเมิดอำนาจอธิปไตย ผลประโยชน์ของประเทศอื่น รวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศ และบรรทัดฐานความสัมพันธ์พื้นฐานระหว่างประเทศ”
“สหรัฐฯ เป็นอาณาจักรอาชญากรและหน่วยสอดแนมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ... เมื่อปีที่แล้ว สหรัฐฯ ได้ส่งเรือรบและเครื่องบิน 657 ลำเพื่อทำการลาดตระเวนใกล้ในจีน”
หวังระบุต่อไปว่า เมื่อเดือน ม.ค.ปีนี้ จีนพบเครื่องบินและเรือทหารสหรัฐฯ 64 ลำในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นการ “คุกคามความมั่นคงของชาติจีนอย่างร้ายแรงและบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค”
ก่อนหน้านี้ ปักกิ่งประณามวอชิงตันยิงบอลลูนของจีนตก โดยกล่าวว่าเป็นการแสดงปฏิกิริยาที่มากเกินไป และจีนสงวนสิทธิที่จะ “ตอบโต้เพิ่มเติมตามที่จำเป็น”
ปักกิ่งได้แจ้งฝ่ายสหรัฐฯ ซ้ำๆ ว่าบอลลูนลำนี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางพลเรือนเท่านั้น และเข้ามาสหรัฐฯ โดยไม่ได้ตั้งใจ
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เลื่อนการเยือนจีนที่เดิมมีกำหนดเดินทางเมื่อวันศุกร์ (3 ก.พ.) ออกไปก่อน โดยเพนตากอนระบุว่า จีนใช้บอลลูนดังกล่าวเพื่อพยายามสำรวจจุดยุทธศาสตร์ในทวีปอเมริกา และเป็น “การละเมิดอธิปไตยที่ไม่สามารถยอมรับได้”
ที่มา กลุ่มสื่อต่างประเทศ/แฟ้มภาพเอเอฟพี