นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของทางการจีน ชี้ 3 ปีฝ่าโควิดงานสุดท้าทาย พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและประชาชนที่ร่วมแรงร่วมใจ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล ระบุกับสถานีโทรทัศน์ CGTN ว่า เมื่อรัฐบาลจีนได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้ และประเทศไทยเป็นหนึ่งในปลายทางที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางมา รัฐบาลไทยต้องสร้างความมั่นใจว่า การเข้ามาของนักท่องเที่ยวจะไม่สร้างอันตรายให้ประชาชนไทย
“เราไม่อาจจะพูดลอยๆ ว่า ต้องสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจกับสุขภาพโดยที่ไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรม เราใช้ข้อมูลทางการแพทย์เพื่อตัดสินใจนโยบายเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีนหลายล้านคนที่จะมาประเทศไทย เมื่อเราตัดสินใจที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน เราต้องมั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะปลอดภัย และประชาชนไทยก็จะปลอดภัยเช่นกัน” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ยอมรับว่า มีการถกเถียงอย่างมากเรื่องการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน แต่รัฐบาลไทยใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในการตัดสินใจ ไม่ได้ใช้ความรู้สึก เพื่อให้ประชาชนไทยยอมรับได้ และเห็นด้วยว่าการเปิดรับนักท่องเที่ยวจะมีผลดีมากกว่า
ทั้งนี้ นายอนุทิน เคยระบุว่า คณะแพทย์และผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า เชื้อไวรัสที่ระบาดในประเทศจีนเป็นสายพันธุ์ที่เคยระบาดแล้วในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และประเทศไทยได้ระบาดผ่านไปแล้ว ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต่อสายพันธุ์นี้แล้ว รวมทั้งชาวจีนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนแล้วหรือเคยติดเชื้อและหายดีแล้ว ทำให้ความวิตกกังวลเรื่องการระบาดน้อยลง
ฉีดวัคซีนให้นักท่องเที่ยว สร้างความมั่นใจในการเดินทาง
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงนโยบายที่จะฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้นักท่องเที่ยว นายอนุทิน ระบุว่า การฉีดวัคซีนเป็นเพียง “ทางเลือก” ถ้านักท่องเที่ยวต้องการ เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยจะเดินทางไปสถานที่ต่างๆ เราต้องการรับประกันว่า นักท่องเที่ยวเหล่านั้นปลอดภัย และคนไทยที่ให้บริการกับนักท่องเที่ยวก็จะปลอดภัยเช่นกัน เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย
นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทยใช้วัคซีนที่เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก นักท่องเที่ยวจีนมีทางเลือกที่จะรับวัคซีนในประเทศไทย ซึ่งจะสร้างความสะดวกถ้านักท่องเที่ยวจะเดินทางต่อไปประเทศที่ 3 ที่มีข้อกำหนดเรื่องวัคซีน
โควิดเปลี่ยนประเทศไทย ประชาชนร่วมใจฝ่าวิกฤต
รองนายกฯ และรัฐมนตรีสาธารณสุขไทย ยอมรับว่า การระบาดของโควิดตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เป็นงานที่ท้าทายสำหรับเขา
“ผมต้องขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนไทย ถ้าหากไม่มีพวกเขา ประเทศไทยคงมาไม่ถึงจุดนี้ ผมมั่นใจว่าคนไทยมีความรู้ด้านสาธารณสุขที่ดีจึงให้ความร่วมมือในการควบคุมโรค พื้นฐานระบบสาธารณสุขของไทยเข้มแข็งอย่างมาก เราจึงสามารถระดมทรัพยากรต่างๆ เพื่อนำพาประเทศให้พ้นจากวิกฤตโรคระบาด”
นายอนุทิน บอกว่า ส่วนตัวเขาเชื่อว่าวัคซีนเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” เพราะวัคซีนช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิต โควิดได้ทำให้กิจกรรมต่างๆ ทั่วโลกหยุดนิ่งมานานกว่า 3 ปี และขณะนี้ประเทศไทยโดยรวมได้ข้ามผ่านโควิดแล้ว
เขากล่าวว่า “ไวรัสไม่มีสมอง แต่มนุษย์เรามีสมอง เราต้องปรับตัวให้อยู่ร่วมกับโรคได้จนกว่าที่เราจะสามารถกำจัดเชื้อโรคได้ในที่สุด”
นายอนุทิน ยังกล่าวว่า การระบาดของโรคโควิดได้เปลี่ยนโฉมระบบสาธารณสุขของไทย จากเดิมที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างมาก แต่การระบาดของโควิดทำให้ไทยต้องพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น การรับมือการระบาดของโควิดทำให้ประเทศไทยมีข้อมูลทางการแพทย์จำนวนมากที่จะนำไปปรับปรุงพื้นฐานทางสาธารณสุขและระบบประกันสุขภาพเพื่อดูแลประชาชนได้อย่างยั่งยืน
รมว.สาธารณสุขกล่าวว่า ประเทศไทยได้สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาคมโลก ซึ่งจะปูทางให้ประเทศไทยพัฒนาตัวเองไปสู่การเป็นศูนย์ทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพระดับโลก
ปีกระต่าย ประเทศไทยก้าวกระโดด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล มั่นใจว่า ในปีเถาะนี้ ประเทศไทยจะก้าวกระโดดเหมือนกับกระต่าย เพราะประเทศไทยได้แสดงให้โลกเห็นถึงการรับมือโรคระบาดด้วยความรู้ทางการแพทย์ และความร่วมมือของประชาชน
“ช่วงที่โรคโควิดระบาดเมื่อ 3 ปีก่อน ผมยืนยันว่าถ้านักท่องเที่ยวจีนติดเชื้อที่เมืองไทย เราจะรักษาจนหายดีก่อนที่จะส่งพวกเขากลับบ้าน เพื่อให้พวกเขาไปบอกกับญาติมิตรว่าประเทศไทยดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี และจะกลับมาเมืองไทยอีกถ้ามีโอกาส เมื่อทางการจีนเปิดทางให้เดินทางท่องเที่ยวได้ก็ได้พิสูจน์ว่า เพื่อนชาวจีนได้เลือกประเทศไทยเป็นปลายทางอันดับแรก”