พญามังกรดิ้นสุดเฮือก หาทางปกป้องอุตสาหกรรมชิปของตนให้รอดพ้นแผนพิฆาตจากฝีมือผู้นำมะกัน โดยยืนยันกับเนเธอร์แลนด์ว่า ต้องการรักษาห่วงโซ่อุปทานและการค้าระหว่างกันให้เปิดกว้างต่อไป
หลังจากสื่อตะวันตกมีการรายงานตามการเปิดเผยของแหล่งข่าววงในว่า ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ได้บรรลุข้อตกลงที่จะร่วมมือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ในการสกัดกั้นจีนเข้าถึงเครื่องมือผลิตชิปคอมพิวเตอร์ขั้นสูงเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ม.ค.ไปแล้วนั้น
การพูดคุยกันทางโทรศัพท์ระหว่าง นายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน กับนายโวปเกอ ฮุกสตรา รัฐมนตรีต่างประเทศของเนเธอร์แลนด์ จึงเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันต่อมา
กระทรวงต่างประเทศแดนมังกรแถลงว่า นายฉิน ยืนยันกับอีกฝ่ายถึงความพยายามของรัฐบาลปักกิ่งในการร่วมปกป้องเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ ตลอดจนปกป้องบรรยากาศการค้าให้ดำเนินไปอย่างเสรีเปิดกว้างและเป็นระเบียบ แทนการปล่อยให้เกิดบรรยากาศของความแตกแยกและความโกลาหลวุ่นวาย
นอกจากนั้น นายฉิน ยังแสดงความหวังด้วยว่า “การเปิดเผยตรงไปตรงมา และลัทธิปฏิบัตินิยม” จะเป็นตัวกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเนเธอร์แลนด์
เหมา หนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนระบุในการแถลงข่าวตามปกติเมื่อวันจันทร์ (30 ม.ค.) ว่า รัฐบาลวอชิงตันกำลังละเมิดหลักการควบคุมการส่งออก ซึ่งจะทำลายเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและอุปทาน พร้อมกับเรียกร้องให้ชาติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ดำเนินการอย่างระมัดระวังโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ในระยะยาวของชาติตนเอง ตลอดจนผลประโยชน์ร่วมกันของประชาคมโลก โดยระบุว่า จีนจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างเต็มที่ แต่มิได้ระบุรายละเอียด
ทั้งนี้ ข้อตกลงฉบับดังกล่าวมีจุดประสงค์ตัดกำลังไม่ให้จีนสามารถผลิตชิปคอมพิวเตอร์ขั้นสูงได้ ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวหาว่า จีนอาจนำไปใช้สร้างอาวุธ และเพิ่มสมรรถนะด้านการส่งกำลังบำรุงทหาร ตลอดจนใช้ไปในการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยผลของข้อตกลงจะนำไปสู่การควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีบางอย่างจากบริษัทที่ตั้งอยู่ในญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งรวมทั้งบริษัทอาเอสเอ็มแอล โฮลดิ้ง เอ็นวี บริษัทนิคอน และบริษัทโตเกียวอิเล็กตรอนจำกัด เพิ่มเติมจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เคยประกาศเมื่อเดือน ต.ค.2565 ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การบรรลุข้อตกลงครั้งนี้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจึงยังไม่มีผู้ใดทราบรายละเอียดในข้อตกลงจนถึงขณะนี้