จีนเปิดประเทศ แต่นักท่องเที่ยวจีนจะเลือกมาประเทศไทยหรือไม่? ไทยไม่เพียงต้องแข่งกับประเทศอื่น แต่ยังต้องแข่งกับนโยบาย “จีนเที่ยวจีน”
รัฐบาลจีนอนุญาตให้พลเมืองจีนเดินทางออกนอกประเทศได้ตั้งแต่ 8 มกราคม และผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจีนจะไม่ต้องกักตัว นี่คือการยกเลิกมาตรการ “โควิดเป็นศูนย์” ที่ทางการจีนใช้อย่างเข้มงวดมานานกว่า 3 ปี หลังการระบาดของโรคโควิด-19
หลายประเทศคาดหวังการพลิกฟื้นเศรษฐกิจจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่บางประเทศหวาดระแวงว่า โรคระบาดระลอกใหม่จะมาพร้อมกับนักท่องเที่ยวจีน
ชาวจีนจำนวนมากต้องการออกเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ หลังจากถูกล็อกดาวน์มานานกว่า 3 ปี แต่ปรากฏการณ์ที่เรียกกันว่า "เที่ยวล้างแค้น" หรือการหลั่งไหลออกนอกประเทศจีนของคนจีนนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่? และนักท่องเที่ยวจีนจะเลือกไปประเทศไหน?
จากการสำรวจพบว่า ประเทศไทย เป็นหนึ่งในเป้าหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน แต่การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิมอีก หากเรายังหวังพึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่
ท่องเที่ยวระยะใกล้ บริการสุขภาพต้องรองรับ
สาวจีนจากกรุงปักกิ่งคนหนึ่งบอกว่า เธอตั้งใจจะไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะก่อนหน้ามีการระบาดของโควิด เธอก็ไปเที่ยวต่างประเทศเป็นประจำ แต่การไปเที่ยวหลังจากนี้เธอจะเลือกประเทศที่เดินทางไม่ไกลมาก และมีระบบการรักษาพยาบาลที่ดี เช่น ประเทศไทย ญี่ปุ่น
ชาวจีนอีกคนหนึ่งบอกว่า เธออยากไปเกาหลี เพราะเธอชอบวัฒนธรรมเกาหลีและเคยเรียนภาษาเกาหลี เธอมีวีซ่าระยะยาว 10 ปีจึงเดินทางได้สะดวก นอกจากนี้ ยังอยากจะไปเอเชียใต้หรือยุโรป เธอบอกว่าตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาจนทำงานก็ไปต่างประเทศอยู่เสมอ เพราะได้สัมผัสวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่าง
หลังโควิด ชาวจีนระแวดระวังในการเดินทางมาขึ้น เกือบทุกคนคำนึงถึงเรื่องสุขภาพและการรักษาพยาบาลหากเจ็บป่วยระหว่างท่องเที่ยว นอกจากนี้ ชาวจีนหลายคนยังบอกว่า จะเลือกไปยังประเทศที่ไม่มีมาตรการกีดกันนักท่องเที่ยวจีน
สิงคโปร์ มาเลเซีย ประเทศไทยจะเป็นอดีต
ชาวจีนเคยมาเที่ยวเมืองไทยเพราะค่าใช้จ่ายถูก แต่ตอนนี้ประเทศไทยไม่ได้ราคาถูกอีกต่อไป นอกจากนี้ คนจีนมีรายได้มากขึ้นมักจะเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง และค้นคว้าข้อมูลเรื่องการท่องเที่ยวมากขึ้น ธุรกิจ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” จะไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนได้อีก
ในอดีต เส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน คือ โปรแกรมที่เรียกว่า “ซิง-หม่า-ไท่” คือ สิงคโปร์-มาเลเซีย-ประเทศไทย แต่นั่นคือเมื่อ 30 ปีก่อน แต่ขณะนี้คนจีนต้องการประสบการณ์ใหม่ในการท่องเที่ยว แต่ก็ต้องการความสะดวกสบายและปลอดภัย การดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนยังไม่ใช่ “ราคา” แต่ต้องเป็น “เอกลักษณ์”
จังหวัดท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต นักท่องเที่ยวจีนคุ้นเคยเป็นอย่างดีแล้ว การเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใน “เมืองรอง” จะเป็นโอกาสทั้งของประเทศไทยและนักท่องเที่ยวจีน
หลังตรุษจีน ตะลุยเที่ยว
ถึงแม้ชาวจีนจะต้องการท่องเที่ยวอย่างมาก แต่เหตุผลที่ชาวจีนจะยังไม่เดินทางท่องเที่ยวในช่วงนี้ เพราะโควิดติดกันเพียบ หลายคนขอรอให้สถานการณ์โรคระบาดดีขึ้นก่อน
นอกจากนี้ เที่ยวบินระหว่างประเทศยังมีไม่มาก และราคาแพง ขณะนี้ยังไม่มีเที่ยวบินตรงปักกิ่ง-กรุงเทพฯ โดยมีเที่ยวบินจากไทยที่บินไปยังเมืองต่างๆ ของจีนรวม 15 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีเที่ยวบินรวมกว่า 400 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
แต่ข้อมูลจากสำนักงานการบินพลเรือนระบุว่า สายการบินต่างๆ ยื่นขอเปิดเส้นทางการบินไปยังประเทศจีนกันอย่างคึกคัก คาดว่าเมื่อจีนปลดล็อกเงื่อนไขการเดินทางอย่างเต็มที่แล้ว จะเห็นการฟื้นตัวของเที่ยวบินจากจีนทันที เพราะไทยเป็นจุดหมายปลายทางหลักที่คนจีนนิยมเดินทางมาในช่วงสถานการณ์ปกติอยู่แล้ว
คาดว่าชาวจีนจะเดินทางออกนอกประเทศหลังเทศกาลตรุษจีน เพราะในปีนี้ ชาวจีนหลายคนสามารถกลับบ้านเกิดในรอบ 3 ปี ตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันที่ 22 มกราคม ถือว่าเร็วกว่าทุกปี โอกาสที่ไทยจะต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนจึงเริ่มตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้
แข่งกับมาตรการ “จีนเที่ยวจีน”
คาดว่าหลังการประชุม 2 สภาของจีนในเดือนมีนาคม รัฐบาลใหม่ของจีนจะมีชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด ซึ่งอาจรวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ เหมือนที่หลายประเทศได้มีมาตรการแบบเดียวกัน
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนจะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์หลักของชาติ ที่เรียกว่า “สองหมุนเวียน” (Dual circulation) หรือขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศควบคู่กับเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ชาวจีนต่างบอกว่า ยินดีมากหากรัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ โดยพวกเขาก็จะเที่ยวทั้งในประเทศและออกไปต่างประเทศด้วย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากมาตรการ “จีนเที่ยวจีน” มีแรงจูงใจที่สูงกว่าการไปเที่ยวต่างประเทศอย่างมาก ก็อาจทำให้ชาวจีนเลือกที่จะเที่ยวในบ้านของตัวเองก่อน
การ “เปิดประเทศ” ของจีนเมื่อกว่า 40 ปีก่อนนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง นี่คือการเปิดประเทศอีกครั้งหลังโควิด ซึ่งจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมากเช่นกัน ประเทศต่างๆ จะไม่อาจใช้วิธีการเดิมๆ ในการจูงใจนักท่องเที่ยวจีน และใช้ทัศนะเก่าๆ ที่มีต่อชาวจีนได้อีก.