เมื่อปี 2564 หญิงจีนแซ่สวีในเมืองฉางโจว มณฑลเจียงซูใช้เงินกว่า 90,000 หยวน (ราว 450,000 บาท) ซื้อปลาดุก 12.5 ตันจากร้านค้าไปปล่อยในทะเลสาบเพื่อขอพรให้ตัวเองโชคดี อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าหลังจากนั้น ปลาเหล่านั้นได้ลอยตายเป็นจำนวนมาก
รายงานระบุว่า ทางการท้องถิ่นต้องใช้เวลารวม 10 วันเพื่อเก็บซากปลาที่ลอยตายในทะเลสาบ
ต่อมาเมื่อเดือน ก.ย. 2564 อัยการท้องถิ่นเป็นโจทก์ฟ้องคดีนางสวีฯ ต่อศาล พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายราว 90,000 หยวน (ราว 450,000 บาท) และค่าปรับอีกจำนวนหนึ่ง
ด้านนางสวีฯ ให้การต่อสู้ว่า เธอเป็นผู้บริสุทธิ์ เธอตั้งใจทำความดี ทำไมจะต้องจ่ายเงินสำหรับสิ่งนั้น
การปล่อยชีวิตสัตว์เป็นกิจกรรมที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่นับ 2,000 ปีในจีน โดยเชื่อว่าการช่วยชีวิตสัตว์ที่จะถูกฆ่าเพื่อแสดงความเมตตาจะนำมาซึ่งความโชคดี
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เต่า ปลา และนกในธรรมชาติได้ถูกจับและขายเป็นสัตว์เชลย เพื่อรอคอยการปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ก่อนหน้านี้ ชายในเขตปกครองตนเองชนชาติกว่างซีจ้วงถูกปรับ 28,000 หยวน (ราว 140,000 บาท) หลังปล่อยปลาซัคเกอร์ 10 ตัว เต่า 10 ตัว และปลาบึกกว่า 10 กิโลกรัมที่เขาซื้อจากตลาดปลาท้องถิ่นลงในอ่างเก็บน้ำ และได้รับคำสั่งให้จับปลาซัคเกอร์ซึ่งเป็นปลาสายพันธุ์รุกรานที่มีการเจริญพันธุ์สูง
ที่มา เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์