จีนเปลี่ยนโฟกัสต้านโควิด “รักษาสุขภาพ ป้องกันอาการรุนแรง” ‘เจ้อเจียง’ เผยผู้ติดเชื้อรายวันยังสูงราวหนึ่งล้านราย คาดพุ่งถึงขีดสุดในเดือนนี้

จีนเปลี่ยนโฟกัสต้านโควิด “รักษาสุขภาพ ป้องกันอาการรุนแรง” ขณะนี้เขตชนบทเตรียมพร้อมรับคลื่นผู้ติดเชื้อที่พุ่งกระฉูดในปลายเดือนนี้ ด้านมณฑลยักษ์ใหญ่เจ้อเจียง จำนวนผู้ติดเชื้อยังสูงทะลุหลักล้านจากช่วงปลายปีที่แล้ว และเดือน ม.ค.นี้จะต้องเผชิญ “สึนามิผู้ติดเชื้อโควิด” ลูกใหญ่สุด

วานนี้ (3 ม.ค.) กลไกร่วมป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 สังกัดคณะรัฐมนตรีจีน ได้จัดการแถลงข่าวเรื่องสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 หมี่เฟิง โฆษกคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งจีน กล่าวว่า ขณะนี้จีนได้เปลี่ยนโฟกัสของปฏิบัติการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 จาก “ป้องกันการติดเชื้อ” มาเป็น “รักษาสุภาพ ป้องกันอาการรุนแรง”


พร้อมกับเผยสถานการณ์การแพร่ระบาด ว่า ท้องที่ต่างๆ ในจีนกำลังประสบกับการรักษาผู้ป่วยโควิดฉุกเฉินและผู้ป่วยอาการหนักจำนวนมาก คาดว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังมาถึงในปลายเดือน ม.ค.นี้ จำนวนผู้ติดเชื้อในเขตชนบทจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและกระทบอย่างมากต่อแนวโน้มของการแพร่ระบาด

ในการแถลง หมี่เฟิง ยังย้ำอีกว่า นับจากเกิดโรคระบาดโควิด 3 ปีมานี้ จีนยืนยันแนวทางการรักษาแบบผสมผสานการแพทย์สมัยใหม่ของตะวันตก และการแพทย์แผนจีน

วันเดียวกัน (3 ม.ค.) ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคระบาดประจำมณฑลเจ้อเจียง แถลงเตือน “ความเสี่ยงต่อสุขภาพภายในเดือน ม.ค.นี้” พร้อมกับเปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในท้องถิ่นได้เพิ่มจำนวนสูงถึงวันละประมาณ 1 ล้านราย และคาดว่าวิกฤตผู้ติดเชื้อจะทะยานสูงถึงขีดสุดในเดือน ม.ค.นี้

การแถลงเตือนดังกล่าว มีขึ้นในช่วงใกล้ถึงเทศกาลตรุษจีน (21 ม.ค.) ซึ่งเป็นช่วงคลื่นคนจำนวนมหาศาลเดินทางข้ามเขตข้ามมณฑล


ทั้งนี้ หลังจากที่จีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด 10 ข้อในต้นเดือน ธ.ค. โดยข้อที่สำคัญสุดคือผู้ป่วยอาการเบาและไร้อาการให้ดูแลรักษาตัวอยู่บ้าน และไม่กี่วันต่อมาก็ประกาศเลิกแถลงข้อมูลสถิติผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ดังนั้น การแถลงจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จึงเป็นนโยบายของแต่ละมณฑล/เมือง/ท้องที่

ในวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา เมืองชิงเต่า เป็นเมืองแรกที่ในจีนที่ออกแถลงสถิติการติดเชื้อภายในท้องถิ่น ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละ ประมาณ 500,000 คน และระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วร้อยละ 10 จากฐานตัวเลขนี้

การออกมาแถลงจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของชิงเต่าซึ่งเป็นเมืองท่าใหญ่ในมณฑลซันตง เป็นการแสดง “การค้นหาวิธีรับมือที่เหมาะสมจากข้อเท็จจริง” ชิงเต่าได้เตรียมการด้านต่างๆ สำหรับรับมือกับทั้งสถานการณ์ผู้ป่วยโควิดเพิ่มจำนวนมากถึงขีดสุด และสถานการณ์ผู้ป่วยหนักที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งจะจู่โจมในเร็วๆ นี้

ค่ายสื่อหลายรายในจีน รายงานข่าว (3 ม.ค.) เผยว่า หลายท้องถิ่นได้ทยอยยกเลิกการทดสอบกรดนิวคลิอิกตรวจเชื้อไวรัสฟรีแก่ประชาชนแล้ว รวมทั้งหลายเมืองในมณฑลเจ้อเจียง เช่น เขตต่างๆ ในเมืองเส้าซิง และเมืองหนิงปัว เมืองจูไห่ในมณฑลกว่างตง เมืองคุนหมิงในมณฑลอวิ๋นหนัน (ยูนนาน)