หลังจากที่จีนเปิดประเทศส่งท้ายปี โดยประกาศยกเลิกการตรวจโควิดแบบ PCR และกักตัวผู้เดินทางมาถึงประเทศ และไฟเขียวให้ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้ กลุ่มประเทศเอเชียต่างกระวีกระวาดเตรียมต้อนรับคลื่นนักท่องเที่ยวจีนที่จะกลับมาสร้างความคึกคักตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในประเทศ ขณะที่บางประเทศมองว่าการฟื้นฟูจริงๆของกระแสท่องเที่ยวจากจีนยังต้องรอไปถึงช่วงกลางปี 2566
รัฐบาลมังกรประกาศ จากวันที่ 8 ม.ค. เป็นต้นไป กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางกลับบ้านเกิด ไม่ต้องถูกกักตัวอีกต่อไปแล้ว หลังการประกาศนี้กระแสจองตั๋วเดินทางก็ดีดตัวขึ้นรับข่าวฯทันที
จีนนับเป็นตลาดเดินทางขาออกที่ใหญ่สุดของโลกในปี 2019 กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนเคยสร้างสถิติการใช้จ่ายระหว่างเดินทางท่องเที่ยวถึง 255,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ดังนั้น ระหว่างที่จีนปิดประเทศควบคุมโควิดอย่างเข้มข้นด้วยนโยบายโควิดเป็นศูนย์ การท่องเที่ยวโลกก็เงียบสนิทอับเฉาไปนานถึงสามปี สำหรับตลาดเอเชีย โดยเฉพาะไทย และญี่ปุ่น เคยมีชาวจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่สุดของการท่องเที่ยว
เที่ยวบินระหว่างประเทศขาเข้าและขาออกจากแผ่นดินใหญ่ มีเพียงร้อยละ 8 หลังจากที่จีนประกาศเปิดประเทศ ขณะนี้กลุ่มสายการบินต่างเร่งอัดฉีดความสามารถบริการผู้โดยสาร
“การท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวอย่างไม่ต้องสงสัย คำถามอยู่ที่ว่าจะฟื้นฟูได้กี่มากน้อยและรวดเร็วแค่ไหน” บิลล์ บาร์เน็ตต์ (Bill Barnett) กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจโรงแรม C9 Hotelworks กล่าว
ด้านกลุ่มสายการบิน มาเลเซีย แอร์ไลน์ส และ สายการบินประหยัด เวียดเจ็ท (VietJet Aviation ) บอกว่าพวกเขาหวังฟื้นเที่ยวบินไปจีนสูงถึงระดับก่อนเกิดโรคระบาดโควิดภายในเดือนมิ.ย. 2566 ขณะที่สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส และ ควอนตัส แอร์เวย์ ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเป้าหมายโดยยังรอดูสถานการณ์
ส่วนกลุ่มสายการบินจีนส่อเค้าจะเพิ่มความสามารถปฏิบัติการอย่างสำคัญจากปลายเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลที่อบอุ่นขึ้น
เมื่อแนวโน้มที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนกระเป๋าหนักจะหลั่งไหลไปยังย่านช้อปปิ้งของประเทศต่างๆทั่วโลกส่งสัญญาณออกมา หุ้นของกลุ่มแบรนด์หรูก็กระชุ่มกระชวยขึ้น เนื่องจากในตลาดแบรนด์หรูโลกที่มีมูลค่าสูงราว 1,910 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น ร้อยละ 21 มาจากกระเป๋าเงินของชาวจีน
กลุ่มธุรกิจต่างๆก็เริ่มเร่งเครื่องจัดเตรียมการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกันแล้ว เพราะช่วงพีคการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากแดนมังกรคือเทศกาลตรุษจีน ซึ่งในปี 2566 จะเปิดฉากในวันที่ 21 ม.ค.
Cavaliere Giovanni Viterale กรรมการผู้จัดการโรงแรม Sofitel Sentosa ในสิงคโปร์ เผยว่า ขณะนี้ทางโรงแรมจัดแพคเกจสำหรับเทศกาลตรุษจีนเพื่อดึงดูดชาวจีนโดยเฉพาะ รวมทั้งบุฟเฟ่ต์หม้อไฟและแพคเกจสุดโรแมนติกสำหรับกลุ่มคู่รัก โดยบริษัทมั่นใจว่า กระแสเดินทางจะกระฉูดแบบ “ล้างแค้น” (ที่ไม่ได้เที่ยวนานถึงสามปี)
ในญี่ปุ่น โฆษกของ Hato Bus ซึ่งเป็นบริษัทรถบัสสำหรับนักท่องเที่ยว บอกว่าในเดือนหน้า (ม.ค.) บริษัทจะทดลองออกทัวร์ภาษาจีนซึ่งหยุดไประหว่างช่วงโรคระบาด และคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวเต็มร้อยในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นยังระมัดระวังในการเปิดประตูรับการท่องเที่ยวจีนเนื่องจากการแพร่ระบาดอย่างถล่มทลายในจีน ดังนั้นจึงออกมาตรการการเดินทางข้ามพรมแดนใหม่โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 ธ.ค.เป็นต้นไป กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่มาถึงสนามบินของแดนปลาดิบจะต้องตรวจโควิด และอนุญาตผู้ที่มี ‘ผลลบ’ เดินทางต่อเข้าไปในประเทศได้ ส่วนผู้ที่มี ‘ผลบวก’ต้องอยู่ในสถานกักตัวเป็นเวลา 7 วัน
(จากข้อมูลถึงวันที่ 29 ธ.ค.) สำหรับประเทศอื่นๆที่แถลงว่าจะใช้มาตรการบังคับตรวจโควิดสำหรับผู้เดินทางมาจากประเทศจีน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย อิตาลี และไต้หวัน ขณะที่ฟิลิปปินส์กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะใช้มาตรการตรวจโควิดชาวจีนที่เดินทางมาถึงดินแดนหรือไม่
ส่วนประเทศออสเตรเลีย เยอรมนี ไทย และอื่นๆ แถลงว่าขณะนี้ยังไม่ออกกฎเพิ่มเติมสำหรับผู้เดินทางจากแผ่นดินใหญ่ ด้านฝรั่งเศสประกาศหราบนโซเชียลมีเดียจีน เวยปั๋ว (Sina Weibo) เน้นย้ำว่า “ขอต้อนรับมิตรสหายชาวจีน”
ที่เวียดนาม ยังไม่ออกวีซ่านักท่องเที่ยวจีน โดยโรงแรมฮาลอง ไซ่ง่อน (Saigon Halong Hotel) ในฮาลอง เบย์ คาดว่าจะเริ่มต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสที่สองของปี 2566
ด้านออสเตรเลีย กระแสนักท่องเที่ยวจีนที่จะไปเที่ยวแดนจิงโจ้ระหว่างเทศกาลตรุษจีน น่าจะยังไม่ฟื้นตัวเท่าไหร่นัก James Shen กรรมการผู้จัดการบริษัท Odyssey Travel ในเมืองเมลเบิร์น คาดการณ์โดยชี้เหตุเพราะค่าตั๋วเครื่องบินที่ยังแพงระยับ
“ตอนนี้ยังมีเที่ยวบินน้อย และพวกเขาจะต้องจองตั๋วในเสี้ยวนาทีสุดท้าย ผมคาดว่าภาคการท่องเที่ยวออสเตรเลีย อาจจะต้องรอไปถึงเดือนมิ.ย. หรือก.ค. กว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวจากจีนจะกลับมาอย่างเป็นล่ำเป็นสันจริงๆ”