รอยเตอร์ – ออสเตรเลียยังไม่เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบในการเปิดรับนักเดินทางจากจีนเข้าประเทศ แม้สหรัฐฯ และบางชาติได้ประกาศมาตรการคุมเข้มให้ผู้มาจากแดนมังกรต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วก็ตาม
นายกรัฐมนตรี แอนโทนี แอลบานีส ของออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอบีซี เมื่อวันพฤหัสฯ ( 29 ธ.ค.) ว่า จนถึงขณะนี้รัฐบาลออสเตรเลียยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางใด ๆ แต่ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาด รวมทั้งผลกระทบของโควิด-19 ในออสเตรเลียและทั่วโลก โดยจะนำคำแนะนำ ที่เหมาะสมจากผู้เชี่ยวด้านสาธารณสุขมาบังคับใช้ต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากรัฐบาลจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อต้นเดือนธ.ค. จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล้นโรงพยาบาล ส่งผลให้สหรัฐฯ อินเดีย ญี่ปุ่น อิตาลี และไต้หวัน ประกาศมาตรการควบคุมนักเดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้าประเทศ
ออสเตรเลียเคยวิพากษ์วิจารณ์นโยบายควบคุมโควิด-19 แพร่ระบาดของรัฐบาลจีนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับออสเตรเลียมาถึงจุดตกต่ำ จนกระทั่งจีนประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าสินค้าภาคสำคัญหลายรายการจากแดนจิ้งโจในปี 2563 อย่างไรก็ตาม ชาติทั้งสองเริ่มหันหน้ามาเจรจาทางการทูตร่วมกันอีกครั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยนาง เพนนี หว่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของออสเตรเลียเพิ่งเดินทางเยือนจีนในเดือนธ.ค. นับเป็นรัฐมนตรีของรัฐบาลออสซี่คนแรก ที่มาเยือนแดนมังกรในรอบ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2562
ขณะที่นาย ดอน ฟาร์เรล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุเมื่อวันพฤหัสฯ ( 29 ธ.ค.) ว่า เขายินดีเดินทางไปจีน เพื่อเจรจาปัญหา ที่จีนคว่ำบาตรการนำเข้าข้าวบาร์เล่ย์ และไวน์ และขณะนี้ออสเตรเลียได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลกแล้ว
ด้านผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์เซเว่นเน็ตเวิร์ก ถามนายกรัฐมนตรีแอลบานีสว่า เขามีแผนเดินทางเยือนจีนหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า การหารือระหว่างเขากับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง นอกรอบการประชุมสุดยอดจี-20 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซียเมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา เป็นการประชุมหารือ ที่ดียิ่ง แต่เขาจะรอดูและตัดสินใจเรื่องการไปเยือนด้วยตนเอง ซึ่งยังไม่ใช่ตอนนี้