“จงหนานซาน” ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจชั้นนำของจีนคาดว่า ชาวจีนจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ในปี 2566
“ผมถูกถามว่าเมื่อไหร่ชีวิตของเราจะกลับมาที่เดิมในปี 2562 (ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19) มุมมองของผมคือในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าหลังจากเดือนมีนาคม ... แม้ว่าผมจะรับประกันไม่ได้ แต่แนวโน้มบ่งชี้ว่ามันควรจะเป็นช่วงนั้น”
จากการวิเคราะห์สถานการณ์ในกว่างโจว ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการระบาดของโอมิครอนในปัจจุบัน นายจง คาดการณ์ว่าการติดเชื้อจะพุ่งสูงสุดช่วงปลายเดือนมกราคม หรือกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2566
“ประชาชนไม่น่าจะถูกจำกัดไม่ให้เดินทางกลับบ้านเพื่อเฉลิมฉลองวันตรุษจีนในปี 2566 แต่ยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเตรียมการเพิ่มขึ้น ... ผมแนะนำว่าคนที่จะเดินทางกลับบ้านควรได้รับการฉีดวัคซีนเสริม เพื่อไม่ให้มีอาการรุนแรงแม้ว่าจะติดโควิดก็ตาม ... การฉีดเข็มกระตุ้นจะมีผลใน 2 สัปดาห์”
จง เน้นย้ำความจำเป็นในการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส แต่ไม่แนะนำให้ผู้คนกักตุนยาลดไข้และยาแก้หวัด เพราะคนที่ติดโควิด-19 ส่วนใหญ่จะหายเองได้ และการกักตุนยาจะทำให้เกิดการตื่นตระหนก
ภายใต้นโยบายปลอดโควิดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทางการจีนได้เรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงวันหยุด ซึ่งรวมถึงในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนจะได้พบปะกับครอบครัว อย่างไรก็ดี นโยบายดังกล่าวสร้างผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจ ทำให้รัฐบาลจีนได้ผ่อนคลายข้อจำกัดที่เข้มงวดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
เมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง และกว่างโจว พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในขณะที่กิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างช้าๆ นักวิเคราะห์กล่าวว่า การติดเชื้อจำนวนมากจะยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยคาดว่าชีวิตปกติจะกลับมาในปีหน้าเท่านั้น
นับตั้งแต่การผ่อนคลายนโยบายโควิดในจีน ยอดจำหน่ายยาที่เกี่ยวข้อง เช่น ยาแก้ไข้ ไข้หวัดใหญ่ ยาแก้ไอ ยาต้านแบคทีเรีย และชุดทดสอบแอนติเจนก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้สินค้าบนแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ต่างๆ ขาดตลาด
มีรายงานว่ามีคนบางส่วนใช้ยาหลายชนิดร่วมกันเพื่อป้องกันโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อตับ ทำให้แพทย์ได้เตือนประชาชนอย่าใช้ยาหลายชนิดโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากอาจเกิดพิษร้ายแรงได้
กลุ่มสื่อต่างประเทศ
ภาพเอเอฟพี