ซาอุดีอาระเบียต้อนรับผู้นำจีนอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติ ซีเอ็นเอ็นสื่อเมกาชี้ บรรยากาศการต้อนรับแตกต่างกับเมื่อคราวประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ มาเยือนอย่างลิบลับ
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เดินทางถึงราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เมื่อบ่ายวันพุธ (7 ธ.ค.) โดยมีเจ้าชายไฟซาล บิน บันดาร์ อัล ซาอุด ผู้ว่าการจังหวัดริยาด เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน อัล ซาอุด รัฐมนตรีต่างประเทศ รัฐมนตรียาเซอร์ อัล รูมัยยาน ซึ่งรับผิดชอบฝ่ายกิจการจีน ตลอดจนสมาชิกคนสำคัญของราชวงศ์ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลซาอุฯ มารอต้อนรับ
สื่อทางการจีนรายงานว่า การต้อนรับผู้นำแดนมังกรดำเนินไปอย่างสมเกียรติยศและอบอุ่น กล่าวคือ เมื่อเครื่องบินของผู้นำจีนเข้าสู่น่านฟ้า เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศราชอาณาจักรซาอุฯ 4 ลำ ก็ทะยานขึ้นบินประกบอารักขาในทันที จากนั้นเมื่อเข้าสู่น่านฟ้ากรุงริยาด ซาอุดีฮอว์กจากฝูงบินผาดแผลง 6 ลำ ก็รับช่วงต่อ เสียงปืนใหญ่ยิงสลุต 21 นัดดังขึ้น ขณะเครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติคิงคาหลิด และเครื่องบินซาอุดีฮอว์กก็ได้ปล่อยควันสีแดงและเหลือง อันเป็นสัญลักษณ์ของธงชาติจีนระบายบนท้องฟ้า
นับเป็นการมาเยือนกรุงริยาดอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประธานาธิบดีสี ในรอบ 6 ปี เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจีน-ชาติอาหรับ ครั้งที่ 1 และการประชุมสุดยอดจีน-ชาติกลุ่มความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ (จีซีซี) พร้อมกับเยือนซาอุฯ ตามคำเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดี ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด
จากรายงานซีเอ็นเอ็น สื่อของสหรัฐฯ นั้น มองว่า ซาอุฯ ให้การต้อนรับผู้นำจีนอย่างเอิกเกริก ลักษณะการต้อนรับเช่นนี้ตามปกติแล้วซาอุฯ จะสงวนไว้สำหรับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ ที่มีความสำคัญที่สุดเท่านั้น
นอกจากนั้น ซีเอ็นเอ็นยังระบุว่า เป็นการต้อนรับที่แตกต่างกันอย่างมากกับคราวประธานาธิบดีไบเดน มาเยือนเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
ในครั้งนั้น เจ้าชายมกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ผู้นำโดยพฤตินัยของซาอุฯ ไม่ยิ้มหน้าบาน และทักทายไบเดนด้วยการชนกำปั้นกัน จากนั้นระหว่างการประชุมโต๊ะกลม ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ เจ้าชายทำให้ผู้นำสหรัฐฯ ต้องเจื่อนไปด้วยการประกาศว่า ซาอุฯ จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างจำกัด เป็นการประกาศเพิ่มการผลิตน้อยกว่าที่สหรัฐฯ เรียกร้องอย่างมาก สถานีโทรทัศน์ของทางการซาอุฯ ได้จับภาพไปที่ไบเดนทันที ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ไบเดนมีอาการโกรธ และไม่ทันตั้งตัวกับการประกาศของอีกฝ่าย จากนั้นอีกไม่กี่เดือนต่อมา ซาอุฯ ยังบวกสหรัฐฯ ด้วยการลดกำลังการผลิตน้ำมันไปเสียเลย
การต้อนรับผู้นำจีนอย่างยิ่งใหญ่ ซาอุฯ ต้องการส่งข้อความเป็นนัยถึงสหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมา พยายามเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ชาติพันธมิตรอาหรับปฏิเสธการยื่นข้อเสนอจูงใจด้านการค้าการลงทุนจากจีน ทว่ามิตรภาพกับปักกิ่งกลับดีวันดีคืน ไม่เฉพาะด้านการค้า แต่รวมถึงด้านความมั่นคง
“ข้อความแรกก็คือจะบอกว่า นี่คือซาอุดีอาระเบียคนใหม่ นี่คืออ่าวอาหรับใหม่ นี่คือความเป็นจริงใหม่” นายอับดุลคาเลค อับดุลลา นักวิเคราะห์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเป็นนักวิชาการอาคันตุกะอาวุโสของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ให้ความเห็นกับซีเอ็นเอ็น
นักการทูตระดับสูงของอาหรับผู้หนึ่งบอกกับซีเอ็นเอ็นว่า การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีสี กับมกุฎราชกุมารซาอุฯ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างชาติทั้งสอง และยังเป็นชัยชนะทางการทูตครั้งใหญ่สำหรับมกุฎราชกุมารซาอุฯ ผู้ถูกชาติตะวันตกกีดกันอย่างไม่เป็นมิตรมานานหลายปี หลังจากเกิดคดีฆาตกรรมนาย จามัล คาซ็อคกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุฯ ในสถานกงสุลซาอุฯ เมืองอิสตันบูลของตุรกี เมื่อปี 2561 ซึ่งรัฐบาลของไบเดนมีการแถลงอ้างรายงานของหน่วยข่าวกรองว่า มกุฎราชกุมารซาอุฯ อาจให้การเห็นชอบการสังหารนี้
สำหรับจีนแล้ว การมาเยือนครั้งนี้เป็นโอกาสให้จีนฝากรอยเท้าทางภูมิรัฐศาสตร์ขยายใหญ่โตมากขึ้นในสนามหลังบ้านของสหรัฐฯ นอกจากนั้น จีนยังต้องการน้ำมันจากซาอุฯเ พิ่มขึ้น ในยามที่จีนเริ่มผ่อนคลายนโยบายควบคุมโควิด-19 โดยสหรัฐฯ เคยเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่สุดจากซาอุฯ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงบางส่วน ขณะที่จีนกลายเป็นลูกค้าและหุ้นส่วนการค้าระดับบิ๊กเบิ้มสุดของซาอุฯ โดยมีการส่งออกไปจีน คิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2564 หรือกว่าร้อยละ 18 ของการส่งออกทั้งหมดของซาอุฯ เลยทีเดียว
ข้อมูลจากไชน่าเดลี / "Saudi’s MBS rolls out the red carpet for China’s Xi, in a not too subtle message to Biden" ของซีเอ็นเอ็น