กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางสำหรับเรื่องราวของสาวโสดวัย 33 ปี จากมณฑลอันฮุย ผู้ทุ่มเททำงานอย่างหนักตลอด 12 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้น้องชายของเธอมีคุณสมบัติเพียบพร้อม จะได้หาเจ้าสาวและแต่งงานได้ไวๆ ส่วนตัวเธอนั้นค่อยว่ากันทีหลัง สร้างความประหลาดใจให้ชาวเน็ตเป็นอย่างมาก
โดยสาวคนนี้เป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆ หลังจากเรียนรู้การทำอาหารชนิดหนึ่งที่มีหน้าตาคล้ายกับโรตีตั้งแต่อายุ 19 ปี เธอก็ค่อยๆ สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมา ทุกวันนี้เธอยังคงทำงานอย่างหนัก โดยตื่นตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง เพื่อมาเปิดร้าน และเข้านอนตอน 5 ทุ่ม
ปัจจุบันนี้เธอมีรายได้เดือนละ 100,000 หยวน (ประมาณ 500,000 บาท) แต่เงินที่เธอหามาได้นั้นล้วนนำไปลงทุนให้น้องชาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อที่ดิน บ้าน รถ แถมยังยกร้านให้น้อง ขณะที่ตัวเธอเองนั้นยังไม่มีบ้าน ไม่มีรถ แม้แต่เสื้อผ้าก็ยังไม่ซื้อใหม่เลย
“ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ฉันตระหนี่มาก แม้กระทั่งซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ตัวเอง” เธอกล่าว
นอกจากนี้ เมื่อถูกถามถึงเรื่องการแต่งงาน เธอก็บอกว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะตัวเธอกำลังให้ความสำคัญกับอนาคตของน้องชายเป็นหลัก เรียกว่าเรื่องของตัวเองไว้ทีหลัง แต่เรื่องของน้องชายมาก่อนเสมอ
“ฉันจะคิดถึงเรื่องของตัวเอง หลังจากน้องชายแต่งงาน...ส่วนงานแต่งของฉัน ฉันรอได้” เธอกล่าว
หลังเรื่องราวความทุ่มเทของเธอถูกเผยแพร่ออกไป กลายเป็นที่ถกเถียงของชาวเน็ต โดยชาวเน็ตต่างมองว่าการกระทำของเธอนั้นดูเกินเบอร์ไปมากและเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี พร้อมคอมเมนต์ เช่น "น้องชายของเธอทำงานเองไม่ได้หรืออย่างไร? นี่มันไม่ยุติธรรม..."
อย่างไรก็ตาม เธอได้ออกมาตอบโต้ประเด็นดังกล่าว ว่าเธอนั้นมีความสุขที่ได้สนับสนุนน้องชาย
“ชีวิตของคนเรานั้นแตกต่างกัน พวกเขาอาจไม่เคยประสบกับความยากลำบากเหมือนพวกเราในวัยเด็ก จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่มีใครเข้าใจ” เธอกล่าว
ทั้งนี้ ด้วยจำนวนประชากรชายที่มากกว่าประชากรหญิงในจีน สืบเนื่องจากนโยบายลูกคนเดียว นำมาสู่การเพิ่มขึ้นอย่างพุ่งทะยานของค่าสินสอด โดยปัจจุบันนี้สินสอดของเจ้าสาวมีมูลค่าตั้งแต่ 10,000 หยวน ถึง 1 ล้านหยวน หรือประมาณ 50,000 บาท ถึง 5 ล้านบาท ส่งผลให้หลายครอบครัวที่มีลูกชายต่างทุ่มเทมอบทรัพย์สิน เพื่อให้ลูกชายของพวกเขามีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมต่อการแต่งงาน จนนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ที่ตามมามากมาย
ที่มา: 月賺44萬卻沒房沒車 33歲女「收入全上繳弟弟」不後悔:等他結婚再考慮自己 (CTWANT)