xs
xsm
sm
md
lg

New China Insights : เทศกาลชอปแหลกวันคนโสดจีนในปีนี้ กับบรรยากาศที่เงียบเหงา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ไลฟ์สดขายของในแพลตฟอร์มโต่วอิน (ติ๊กต็อกเวอร์ชันจีน) เข้ามาเล่นในตลาดขายของออนไลน์และร่วมจัดร้านค้าในเทศกาลชอปปิ้ง 1111 (วันที่ 11 พ.ย.) หรือวันคนโสดเช่นกัน (ภาพจาก ไป๋ตู้)
โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล นักวิชาการอิสระ

หากผู้อ่านได้ติดตามข่าวทางจีนอยู่สม่ำเสมออาจจะทราบว่า เทศกาลชอปแหลก 1111 (วันที่ 11 พ.ย.) หรือวันคนโสดในจีน ในทุกๆ ปีมีความคึกคักเพียงใด แต่สำหรับในปีนี้เทศกาลชอปแหลก 1111 ไม่ค่อยจะคึกคักอย่างที่ผ่านมา เพราะบรรยากาศทางเศรษฐกิจในประเทศจีนที่ไม่ค่อยจะสู้ดี และประชาชนปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างมากตั้งแต่หลังการระบาดโควิด-19

ในช่วงก่อนโควิด-19 ทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ อย่าง Tmall และ JD.com จะจัดเวทีอีเวนต์ชอปแหลก 1111 อย่างยิ่งใหญ่ เชิญดารานักร้องดังขึ้นมาแสดง และสุดท้ายคือการนับถอยหลังตั้งแต่เย็นวันที่ 10 พ.ย.ไปจนข้ามเที่ยงคืนไปวันที่ 11 พ.ย. โดยจะมีโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่โชว์ตัวเลขจำนวนเงินรวมที่ลูกค้าบนแพลตฟอร์มซื้อของแบบเรียลไทม์และมูลค่าใช้จ่ายของผู้ซื้อบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในวันที่ 11 พ.ย.ก็ทุบสถิติใหม่อยู่ทุกๆ ปี

สำหรับในปีนี้คนจีนหลายคนไม่ตื่นตัวกับเทศกาลชอปแหลก 1111 เหมือนปีก่อนๆ ทั้งนี้ไม่ใช่ผู้เขียนคนเดียวที่รู้สึกแบบนั้น ลองถามเพื่อนๆ รอบตัว และเพื่อนนักชอปตัวยงที่ซื้อเป็นหลักแสนบาททุกปี บางคนบอกว่า “บรรยากาศแบบนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะชอปปิ้ง” บ้างก็บอกว่า “ต้องประหยัดมากขึ้น พยายามใช้เงินเท่าที่จำเป็น” บ้างก็ว่า “วิกฤตโควิด-19 กว่า 3 ปีทำให้แนวคิดและพฤติกรรมการใช้เงินเปลี่ยนไป” นอกจากนี้ ยังมีกระทู้มากมายในออนไลน์ที่ชาวเน็ตจีนถกกันเรื่องความซบเซาของเทศกาลชอปปิ้ง 1111 ในปีนี้

ป้ายโฆษณาโปรโมตเทศกาลชอปปิ้งวันที่ 11 พ.ย. ของอาลีบาบาในเซี่ยงไฮ้ ภาพเมื่อวันที่ 22 ต.ค.2022 (แฟ้มภาพ เอพี)
ในด้านของแพลตฟอร์มเถาเป่าเองในปีนี้ก็มีการอัปเกรด และพยายามปรับเงื่อนไขต่างๆ ให้ง่ายกับลูกค้าที่เข้ามาชอปปิ้งมากยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มจำนวนการใส่ของในตะกร้าสูงสุดถึง 300 ชิ้น! เพิ่มระยะเวลาการประกันราคาสินค้าจาก 15 วันเป็น 27 วัน (ยกตัวอย่างเช่น เราซื้อสินค้าชิ้นหนึ่งไปราคา 30 หยวน หากราคาสินค้าชิ้นที่ซื้อไปเกิดลดราคาลงมาเหลือ 20 หยวนในช่วงที่สินค้าเราอยู่ในเวลาการประกันราคาหลังการซื้อภายใน 27 วัน เราสามารถยื่นเรื่องขอคืนเงินจากทางแพลตฟอร์มได้ 10 หยวน กล่าวคือ สามารถขอคืนเงินส่วนเกินที่เราจ่ายแพงไปได้) ลักษณะแบบนี้ทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้น

อีกทั้งแพลตฟอร์มเถาเป่ายังเพิ่มบริการดูแลพิเศษสำหรับสินค้าที่สถานะในการจัดส่งมีปัญหา ทำให้สามารถแก้ปัญหาสินค้าหายระหว่างจัดส่ง หรือจัดส่งล่าช้าได้ทันท่วงที ถึงแม้ว่าแพลตฟอร์มเถาเป่าจะพยายามอัปเกรดแพลตฟอร์มมากขนาดนี้ ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นความอยากชอปปิ้งของผู้บริโภคได้มากเท่าที่ควร มีคอมเมนต์หนึ่งในกระทู้เกี่ยวกับความเงียบเหงาของเทศกาลชอป 1111 ให้ความเห็นว่า “ในปีนี้ของที่จะซื้อเก็บลงตะกร้าไปไม่เกิน 1,000 หยวน หรือประมาณ 5,400 บาท และของทั้งหมดคือซื้อให้ครอบครัว ไม่มีของตัวเองเลยสักชิ้นเดียว”

ในมุมของผู้ค้าเองก็ไม่ง่ายเลย ผู้ค้ารายย่อยในแพลตฟอร์มออนไลน์เริ่ม “เหนื่อยล้า” เพราะสงครามด้านราคา กำไรนับวันยิ่งน้อยลง ถึงขนาดขาดทุนติดต่อกันเลยก็มี แต่ยังคงต้องดำเนินธุรกิจอยู่เพราะต้องการรักษาฐานลูกค้าและคงอันดับการโชว์ร้านในแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ต่างๆ เอาไว้ ผู้ค้ารายหนึ่งร่วมแคมเปญชอปปิ้ง 1111 มา 14 ปี มองว่าการแข่งขันตลาดขายปลีกในประเทศตอนนี้สูงมาก โรงงานลงมาขายเองก็เยอะ ตอนนี้ผู้ค้าหลายรายพยายามเปลี่ยนกลยุทธ์จากการลดแลกแจกแถมมาเป็นการสร้างแบรนด์และสร้างกลุ่มลูกค้าที่ภักดี แบบนี้ถึงสามารถจะอยู่รอดต่อไปได้ ผู้เขียนเองมองว่าตั้งแต่มีแพลตฟอร์มพินตัวตัว (Pinduoduo) ยอดขายของแพลตฟอร์มเถาเป่าก็ดร็อปลงไปเยอะ เพราะกลยุทธ์ของพินตัวตัว ที่ลงออเดอร์ซื้อแบบกลุ่ม ทำให้ราคาของสินค้าตัวเดียวกันดึงดูดลูกค้าได้มากกว่าแพลตฟอร์มเถาเป่ามาก

นักชอปมองป้ายนอกห้างสรรพสินค้าโฆษณาเทศกาลชอปปิ้ง 1111 (หรือวันคนโสด) ของ JD.com ในปักกิ่ง ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2022
ผู้ค้าออนไลน์ขนาดเล็กและขนาดกลางจีนต้องดิ้นรนมากขึ้น เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ค้าออนไลน์รายหนึ่งเปิดเผยต่อนักข่าวของ Times Weekly ว่า ในปีนี้เมื่อพิจารณาจากข้อมูลการประเมินตัวเลขที่มีอยู่ปัจจุบัน เป็นเรื่องยากมากที่จะบรรลุเป้าหมายยอดขายของร้าน และแพลตฟอร์มได้ให้เงินอุดหนุนสนับสนุนแก่ผู้ค้าน้อยมาก แต่ให้ทางผู้บริโภคมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ค้ารายย่อยอาจจะขาดทุนในการร่วมกิจกรรมลดแหลก 1111 ของแพลตฟอร์ม โดยการสนับสนุนของแพลตฟอร์มส่วนใหญ่ยังคงกระจุกตัวอยู่ที่ร้านค้าชั้นนำที่มียอดขายมหาศาล และในปีนี้เถาเป่าได้ทุ่มเททรัพยากรมากมายในไลฟ์สดขายของในช่องที่มีคนติดตามมหาศาล อย่างหลี่ เจียฉี (Austin) ได้เริ่มกลับมาขายของและยังเป็นไลฟ์สดขายของอันดับหนึ่งในเถาเป่า และยังมีนักไลฟ์สดชื่อดังจากแพลตฟอร์มอื่นๆ เข้ามาร่วมในเถาเป่าด้วย แน่นอนว่าแบรนด์สินค้าและผู้ค้าที่ทรงพลังอยากที่จะร่วมงานแคมเปญชอปแหลก 1111 แต่สำหรับผู้ค้ารายย่อยที่ไม่มีความแข็งแกร่งทางการเงินในการโปรโมต และไม่มีสปอนเซอร์สนับสนุนก็ต้องเข้าร่วมแคมเปญชอปแหลก 1111 กับแพลตฟอร์มตามศักยภาพของตัวเอง

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดการค้าปลีกออนไลน์ก็มีมาก ที่ชัดเจนคือ แพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเยอะขึ้น ลูกเล่นมากขึ้น การให้เงินสนับสนุนกับผู้ค้าต่างกัน และมีการจัดเทศกาลชอปปิ้งลดแหลกกันแบบถี่ๆ ทำให้เทศกาลชอปแหลก 1111 ของเถาเป่า อาจจะไม่ได้เป็นที่น่าสนใจของผู้ค้าเสมอไปนัก

สำหรับคนวงในในอุตสาหกรรมค้าปลีกออนไลน์ ต่างยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยอยากเข้าร่วมแคมเปญชอปแหลกวันโสดกับแพลตฟอร์มเถาเป่า แต่ก็ต้องทำใจเข้าร่วมเพราะเปรียบเสมือนกลไกการแข่งม้าต้องวิ่งอยู่ตลอดเวลา เพราะหากไม่เข้าร่วมอันดับการแสดงของร้านค้าในแพลตฟอร์มเถาเป่าก็จะร่วง และลูกค้าจะเห็นน้อย ของจะยิ่งขายยากขึ้น

บรรยากาศเทศกาลชอปปิ้ง 1111 ในเซี่ยงไฮ้ ภาพเมื่อวันที่ 11 พ.ย.2021 (แฟ้มภาพรอยเตอร์)
และหลังจากเทศกาลชอปแหลกวันโสด 1111 ได้ผ่านไป ตามสถิติที่ประกาศโดยแพลตฟอร์มบิ๊กดาต้าโหลวต้าหวาง (罗大网大数据) รายงานว่า ยอดขายเทศกาลชอปแหลกวันโสด 1111 ของทุกแพลตฟอร์มรวมกันของปีนี้อยู่ที่ 5.57 แสนล้านหยวน เทียบกับ 9.65 แสนล้านหยวนในปีที่แล้ว ลดลงมากกว่า 4 แสนล้านหยวน หรือลดลงเกือบ 50%

ในปีนี้ Tmall และ JD.com ไม่ประกาศยอดขายสินค้ารวม (GMV : Gross Merchandise) โดยตอนหลัง Tmall ออกมารายงานว่า ยอดขายเหมือนกับปีที่แล้ว โดยไม่มีกล่าวถึงยอดขายที่เป็นตัวเลขแน่ชัด ส่วน JD.com ก็ออกมาบอกแค่ว่ายอดขายในปีนี้เป็นที่พอใจ ไม่ได้ประกาศยอดขายเหมือนเช่นปีก่อนๆ เช่นกัน! คำนิยามของเทศกาลชอปแหลกวันโสด 1111 ในปีนี้คือ “ยอดขายเงียบเหงา คนซื้อของที่จำเป็นเท่านั้น ผู้ขายระมัดระวังในการเข้าร่วมแคมเปญลดราคา” พฤติกรรมการใช้จ่ายของคนจีนหลังการระบาดของโควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ถึงขนาดมีคำกล่าวกันว่า “ลาก่อน เทศกาลชอปคนโสด 1111”

สรุปที่เทศกาลชอปแหลกวันโสด 1111 ของจีนในปีนี้เงียบเหงากว่าปีที่ผ่านๆ มาจากหลายสาเหตุปัจจัยด้วยกัน สาเหตุสำคัญหลักคือเรื่องบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ซบเซา ประชาชนปรับทัศนคติการใช้จ่ายและระมัดระวังมากขึ้น ในด้านของผู้ค้าเองก็ประสบกับความท้าทายในหลายด้าน และต้องพยายามปรับตัวกันไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง


กำลังโหลดความคิดเห็น